คอลลาเจน


คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผิวพรรณและสุขภาพโดยรวมของร่างกาย เนื่องจากเป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) ที่ช่วยให้ผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็น และหลอดเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของผิวถึง 75-80% และทำหน้าที่ในการให้โครงสร้างผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และเรียบเนียน

คอลลาเจน มีความสำคัญต่อร่างกาย และควรต้องเสริมสร้างให้ร่างกายอยู่เสมอ เพราะถึงแม้จะเป็นโปรตีนที่ร่างกายผลิตเองได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะสร้างน้อยลงเรื่อยๆ และที่มีอยู่ ก็เสื่อมไปตามวัยด้วย ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย

Table of Contents

ประเภทของคอลลาเจนที่พบได้ในร่างกาย

คอลลาเจนมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีหน้าที่และบทบาทแตกต่างกันในร่างกาย

คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Type I Collagen)

เป็นคอลลาเจนที่พบมากที่สุดในร่างกายและมีบทบาทในการสร้างโครงสร้างของผิวหนัง กระดูก เส้นเอ็น และอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะผิว คอลลาเจนชนิดนี้ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น

คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Type II Collagen)

พบมากในกระดูกอ่อนและข้อต่อ มีหน้าที่ในการเสริมความยืดหยุ่นและลดแรงเสียดทานระหว่างกระดูก

คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Type III Collagen)

พบในผิวพรรณ หลอดเลือด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน คอลลาเจนชนิดนี้ช่วยให้ผิวดูอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น

คอลลาเจนชนิดที่ 4 (Type IV Collagen)

ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเยื่อหุ้มชั้นฐาน (basement membrane) ซึ่งช่วยให้เนื้อเยื่อในร่างกายเชื่อมโยงกันได้อย่างแข็งแรง

คอลลาเจนเปรียบเสมือนโครงสร้างพื้นฐานของผิว และ อวัยวะต่างๆของมนุษย์และสัตว์ โดยในร่างกายของคนเรามีคอลลาเจนอยู่ประมาณ 30% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย โดยเฉพาะที่ผิวหนังจะเป็นที่ๆอุดมไปด้วยคอลลาเจนมากที่สุด

ลักษณะทางโครงสร้างของคอลลาเจนคือ เป็นโปรตีนที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ประมาณ 200,000-300,000ดาลตัน และไม่ละลายในน้ำ มีลักษณะเป็นเกลียวของเปบไทด์ที่มายึดพันกัน คล้ายๆเกลียวของเชือกฟั่น มีความเหนียว คงทน

คอลลาเจน แตกต่างจากโปรตีนทั่วไปอย่างไร?

คอลลาเจนมีองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแตกต่างจากโปรตีนทั่วไป คือ คอลลาเจนจะมีกรดอมิโนสำคัญ ที่สามารถช่วยให้โครงสร้างโปรตีนของเนื้อเยื่อ และอวัยวะทั้งหมด มีความเหนียว ยืดหยุ่น คงทน แข็งแรง

คอลลาเจน มีถึง 28 ชนิด มีโครงสร้างภายในและหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่ที่พบมากที่สุดในร่างกายมนุษย์มี 5 ชนิด ที่อยู่ใน ผิวหนัง กระดูก ฟัน กระดูกอ่อน เส้นเอ็น เป็นต้น

เนื่องจากคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักประมาณ 200,000-300,000 ดาลตัน ทำให้ดูดซึมยาก ร่างกายจำเป็นต้องย่อยโมเลกุลของคอลลาเจนให้มีขนาดเล็กลง จึงต้องมีกระบวนการย่อยคอลลาเจนที่เรียกว่า กระบวนการ ไฮโดรไลซิส (Hydrolysis) 

เมื่อผ่านการย่อยแล้ว คอลลาเจนจะมีขนาดเล็กลง กลายเป็นคอลลาเจนเปบไทด์ที่มีขนาดเหลือแค่ 10,000 , 5,000 , 3,000 ดาลตันเท่านั้น ซึ่งคอลลาเจนยิ่งมีขนาดเล็กลง ก็จะยิ่งดูดซึมได้ดี มีคุณภาพสูง

คอลลาเจน Structure

5 เหตุผลที่คอลลาเจน มีความจำเป็นต่อร่างกาย

คอลลาเจนกับผิวหนัง

คอลลาเจนช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่น และชุ่มชื้น 

คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีอยู่ในผิวหนังถึง 30% ของปริมาณคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย จึงทำให้คอลลาเจนมีผลต่อผิวหนังมาก เมื่ออายุยังน้อย ร่างกายสร้าง คอลลาเจนได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ผิวหนังของเราก็จะแน่น ฟู เด้ง เหมือนติดปริง รวมถึงความเรียบเนียนของผิว ที่เรียบเนียน นุ่มมือ 

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้น้อยลง ส่วนที่มีอยู่ ก็เริ่มเสื่อมสภาพ เส้นใยที่เกาะเกี่ยวกันอย่างแน่นแฟ้น เริ่มยืดยาน ไม่ยืดหยุ่นเหมือนเมื่อก่อน การเสริมคอลลาเจน จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกาย

คอลลาเจนกับกระดูก

คอลลาเจนช่วยเสริมสร้างความหนาแน่นของกระดูก

นอกจากในผิวหนังแล้ว คอลลาเจนยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูก เปรียบเสมือนตัวกันชนของข้อต่อกระดูก ช่วยลดความเจ็บปวดของข้อกระดูก ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายได้ดีขึ้น  เสริมสร้างความหนาแน่นของกระดูก ลดการเป็นโรคกระดูกพรุน และทำให้กระดูกอ่อนสมบูรณ์ขึ้น 

เมื่ออายุมากขึ้น แน่นอนว่า กระดูกต้องเริ่มเสื่อม ความหนาแน่นน้อยลง เวลาลุกหรือนั่งลำบากขึ้น เริ่มมีเสียงลั่นของกระดูก นั่นเป็นเพราะคอลลาเจนในกระดูกลดน้อยลง การทานคอลลาเจน จะไปเพิ่มมวลกระดูก และหล่อลื่นตรงข้อต่อกระดูก ทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นไปอย่างยืดหยุ่น เหมือนกลับไปเป็นหนุ่ม เป็นสาวอีกครั้ง

คอลลาเจนกับกล้ามเนื้อ

คอลลาเจนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง

คอลลาเจนคือโปรตีนประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า หน้าที่ของโปรตีน คือเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และคอลลาเจน ก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน 

คอลลาเจนกับหลอดเลือด

คอลลาเจนช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด

ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายเป็นไปอย่างราบรื่น หากหลอดเลือดแข็งตัว โอกาสที่เลือดจะไปอุดตันอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นไปได้สูง ซึ่งจะทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดต่างๆตามมามากมาย 

คอลลาเจนกับผมและเล็บ

คอลลาเจน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผมแล็บ 

ทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น เล็บไม่เปราะ หักง่าย และยังช่วยให้เส้นผมและเล็บยาวเร็วขึ้นด้วย

จะเห็นได้ว่า คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของอวัยวะสำคัญในร่างกายทั้งสิ้น ช่วยเสริมสร้างร่างกายในทุกมิติ ตั้งแต่เรื่องความสวยงาม จนถึงสุขภาพ จึงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย ที่เราจะปล่อยให้ร่างกายขาดคอลลาเจน ซึ่งจริงๆแล้ว เราสามารถเพิ่มคอลลาเจนได้จากการรับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูง เช่น ปลาแซลมอน งาดำ สาหร่ายทะเล มะเขือเทศ ตีนไก่ เป็นต้น ซึ่งถ้าต้องการให้ได้อย่างเพียงพอ ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่สูงมาก การเสริมคอลลาเจน จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกาย

บทบาทของ คอลลาเจน ในผิวพรรณ

ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์

คอลลาเจนทำให้ผิวหนังมีความเต่งตึงและยืดหยุ่น เมื่อมีคอลลาเจนในปริมาณมาก ผิวจะดูเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย แต่เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนในชั้นผิวจะลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยอย่างชัดเจน

การฟื้นฟูผิว (Wound Healing)

คอลลาเจนมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวที่เสียหาย เช่น รอยแผลเป็น แผลสด หรือแผลสิว การมีคอลลาเจนในระดับที่เพียงพอช่วยให้การฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

คอลลาเจนช่วยรักษาน้ำในผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและไม่แห้งกร้าน นอกจากนี้คอลลาเจนยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยจากผิวที่ขาดน้ำ โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่แห้งและเย็น

ปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดด

คอลลาเจนช่วยลดการทำลายผิวที่เกิดจากรังสียูวี (UV) การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานอาจทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพและถูกทำลาย ทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ และความหย่อนคล้อย

    ปัจจัยที่ทำให้คอลลาเจนเสื่อม หรือสูญเสียไป

    รังสี UV ในแสงแดด

    แสงแดดคือตัวการสำคัญในการทำลายคอลลาเจนให้เสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น หมองคล้ำ

    มลภาวะ ฝุ่น ควัน

    มลภาวะ หรือฝุ่นควันต่างๆ เราต้องเผชิญอยู่ทุกวัน เมื่อสะสมในร่างกายมากขึ้นเรื่อย จะไปทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพลง 

    คาเฟอีน

    เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ หากดื่มในปริมาณมาก จะทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวถูกทำลาย ผิวพรรณไม่สดใสเปล่งปลั่ง และมีผลต่อระบบเลือด และระบบย่อยอาหาร

    ความเครียด

    เมื่อร่างกายเกิดความเครียดจะผลิตสารคอร์ติซอลออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่จะไปทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนังเราได้

    พฤติกรรมส่วนตัว

    พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา ก็มีผลต่อคอลลาเจนให้ร่างกายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มน้ำน้อยเกินไป พฤติกรรมเหล่านี้ เป็นตัวทำลายคอลลาเจนในร่างกายของเรา ทีละน้อย โดยไม่รู้ตัว

    คอลลาเจน มาจากแหล่งใดได้บ้าง?

    คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่พบมากในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว หมู รวมถึงมนุษย์ด้วย โดยปกติ ร่างกายมนุษย์จะสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนส่วนที่เสื่อมลงไปอยู่แล้ว แต่เมื่ออายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนก็ลดน้อยลง ทำให้ร่างกายและผิวพรรณเกิดปัญหามากมาย จึงเริ่มมีการสกัดคอลลาเจนจากหมู และวัว เพื่อมาใช้เป็นคอลลาเจนเสริม แต่คอลลาเจนที่ได้จากหมูและวัว เป็นคอลลาเจนที่มีโครงสร้างโมเลกุลหนัก 200,000-300,000 ดาลตัน จึงต้องผ่านกระบวนการย่อยให้โมเลกุลเล็กลง (Collagen Hydrolysis)

    เมื่อผ่านกระบวนการ Hydrolysis แล้ว จะได้ Collagen Hydrolysate ที่ประกอบไปด้วย Collagen Peptide ที่มีขนาดโมเลกุลเล็กลงตั้งแต่ 10,000 ดาลตัน ลงมาจนถึงแค่ประมาณ 1,000 ดาลตัน ซึ่งยิ่งค่าดาลตันน้อยเท่าไหร่ ร่างกายยิ่งดูดซึมได้เร็ว และนำไปใช้ได้ทันที 

    ปัจจุบันมีการสกัดคอลลาเจนจากเกล็ดปลา ซึ่งจะได้ Collagen Peptide ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ประมาณ 800-1,200 ดาลตัน ซึ่งไม่ต้องไปผ่านกระบวนการ hydrolysis ร่างกายก็สามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลา และคุณค่าของคอลลาเจนก็จะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

    คอลลาเจนที่ดี ควรมีลักษณะใดบ้าง?

    •  มีมวลโมเลกุลต่ำไม่เกิน 1,200 ดาลตัน เพื่อการดูดซึมเข้าร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่
    • ละลายน้ำได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาคน กลิ่นไม่แรง
    • มีปริมาณกรด อะมิโนชนิด ไฮดรอกซี่โปลีน ที่จำเป็นในการสร้างคอลลาเจนสูง  เพราะจะสามารถทำให้ร่างกายได้ประโยชน์จากคอลลาเจนเต็มที่
    • รสชาติดี รับประทานง่าย

    อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า คอลลาเจน เป็นโปรตีนที่ร่างกายสร้างได้เองอยู่แล้ว และเราสามารถเพิ่มคอลลาเจนได้จากอาหารที่รับประทานอยู่ทุกวัน แต่ถ้าหากต้องการ เสริมคอลลาเจน ก็ควรเลือกคอลลาเจนที่มีโมเลกุลขนาดเล็กไม่เกิน 1,200 ดาลตัน เพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากคอลลาเจน

    เทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องการกระตุ้นคอลลาเจน

    นอกจากการรับประทานอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมคอลลาเจนแล้ว ยังมีหัตถการทางการแพทย์ที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังและเนื้อเยื่อต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิว เช่น

    การทำ Ulthera

    Ulthera เป็นหัตถการที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์พลังงานสูงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังลึก โดยพลังงานคลื่นเสียงจะส่งผ่านเข้าสู่ผิวหนังชั้น SMAS และเข้าไปกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ซึ่งช่วยให้ผิวหนังมีความกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น

    คอลลาเจน - Ulthera

    การทำ Thermage

    Thermage เป็นหัตถการที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radiofrequency) ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยคลื่นวิทยุจะถูกส่งผ่านลงไปยังชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน เพื่อเพิ่มความร้อนในระดับที่ควบคุมได้ ส่งผลให้คอลลาเจนที่มีอยู่ในผิวเกิดการหดตัวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

    การทำ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound)

    HIFU เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ใช้พลังงานอัลตราซาวด์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงส่งผ่านไปยังชั้นผิวลึกๆ เพื่อสร้างความร้อนที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวหนัง

    Microneedling (Dermaroller)

    Microneedling หรือ Dermaroller เป็นหัตถการที่ใช้เข็มขนาดเล็กมากเพื่อทำการสร้างรอยแผลเล็กๆ บนผิวหนัง รอยแผลเหล่านี้จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและ อีลาสตินใหม่ในผิวหนัง ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น

    การฉีด Sculptra

    Sculptra มีส่วนประกอบสำคัญคือ Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งเป็นสารที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยมีการวิจัยว่า สาร PLLA ใน Sculptra ช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน Type 1 ได้ถึง 66.5% จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในผิวหนังได้โดยตรง

    สรุป

    คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพและความงามของมนุษย์ โดยเป็นส่วนประกอบหลักของผิวพรรณ กระดูก กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด การมีระดับ คอลลาเจนที่เพียงพอจะช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น ความแข็งแรง และความชุ่มชื้นของผิว ช่วยลดริ้วรอยและเสริมสร้างกระดูกที่แข็งแรง นอกจากนี้ คอลลาเจนยังช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและป้องกันโรคหลอดเลือด

    นอกเหนือจากการรับประทานอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมคอลลาเจน ยังมีหัตถการทางการแพทย์ที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น Ulthera , Thermage, HIFU, Microneedling และการฉีด Sculptra หัตถการเหล่านี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสุขภาพผิวและเนื้อเยื่อต่างๆ โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด

    การรักษาระดับคอลลาเจนในร่างกายให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญในการคงความอ่อนเยาว์และสุขภาพที่ดีในระยะยาว

    Similar Posts