สิวอุดตัน สาเหตุจากการเกิดสิว? ควรดูแลผิวและมีวิธีรักษาสิวอย่างไรดี?

เรื่องสิว ที่ไม่เคยจิ๋ว อีกหนึ่งปัญหาผิวที่ทำให้หลายๆ คนปวดใจได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด สิวหัวช้าง หรือแม้กระทั่งเหล่าสิวๆ ที่ขึ้นมาตามจุดต่างๆ ของผิวหน้าเรา อาทิ สิวขึ้นคาง สิวขึ้นหน้าผาก เรื่องสิวๆ เหล่านี้ ต่างเป็นปัญหาที่ไม่เคยจิ๋ว เพราะนอกจากจะสร้างความน่ารำคาญใจให้กับผิวหน้าของเราแล้ว ยังก่อให้เกิดอาการอักเสบบนผิวหน้า ช้ำใจหนักยิ่งกว่า คือขัดขวางความมั่นใจในการใช้ชีวิตสุดๆ หากสาวๆ ไม่อยากต้องมาสะดุดเพราะเรื่องสิว การดูแลสุขอนามัย เพื่อป้องกันปัญหาผิวต่างๆ ก็สำคัญด้วยเช่นกัน

ลา กราซ คลินิก ได้รวบรวมข้อมูลในการดูแลผิวที่ช่วยสาวๆ ในเรื่องจัดการปัญหาผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่อยากให้หน้าเป็นสิว และเกิดสิวแบบเรื้อรัง ซึ่งนอกจากปัญหาสิวแล้ว ยังมีเรื่องปัญหาผิวที่ตามมาระหว่าง และหลังจากการเกิดสิวให้ปวดใจได้อีกไม่แพ้กัน เช่น หลุมสิว รอยสิว จุดด่างดำ แผลเป็นจากสิว ผิวหน้าคล้ำเสีย และไม่เรียบเนียน ซึ่งปัญหาต่างๆ เหล่านี้ จะหมดไป หากสาวๆ หันมาใส่ใจการดูแลตัวเอง เริ่มจากวิธีง่ายๆ ที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน ดังนี้เลยค่ะ

ทริคดูแลผิว ถ้าไม่อยากให้หน้าเป็นสิว ต้องหลีกเลี่ยง 9 พฤติกรรม นี้

1. ชอบลักไก่ ไม่ล้างหน้า หรือล้างหน้าไม่สะอาดก่อนนอน

สาวๆ ที่มักขี้เกียจ ชอบลักไก่ไม่ล้างหน้าก่อนนอน หรือทำความสะอาดผิวหน้าแบบลวกๆ ต้องระวัง ถ้าไม่อยากให้หน้าพัง เพราะในแต่ละวันเราต้องเผชิญกับเชื้อโรค แบคทีเรีย และมลภาวะต่างๆ มากมายที่ทำให้เกิดสิว ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM ฝุ่นละออง หรือควันที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น ควันจากการทำอาหาร ควันจากการจราจรของรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ อีกทั้งยังมีแสงแดดที่ต้องเผชิญบ่อยๆ รวมถึงเครื่องสำอางที่ต้องแต่งหน้าออกไปข้างนอกในทุกๆ วัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเกาะติดตามผิว เป็นสิ่งสกปรกที่สะสมบนใบหน้าเราพร้อมกลับบ้านไปด้วยเช่นกัน

ดังนั้น แนะนำค่ะว่าหากมาถึงบ้านแล้ว ควรรีบเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ อ่อนโยน และเหมาะกับสภาพผิวของเรา จากนั้นก่อนนอนทุกคืนอย่าลืมล้างหน้าให้สะอาด ควรใส่ใจขั้นตอนในการล้างหน้าอย่างถูกวิธี และพิถีพิถัน เพราะการล้างหน้าเปรียบเสมือนประตูบานแรกสู่ผิวสวย อ่อนเยาว์ และช่วยป้องกันการเกิดสิวได้ดี

การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน และไม่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นเองก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมไม่เหมาะสม อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ หน้าพัง และผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งนอกจากจะทำให้สาวๆ แต่งหน้าไม่ติดแล้ว ยังก่อให้เกิดสิวได้อีกด้วยค่ะ ขอแนะนำCleansing Oil อีกหนึ่งตัวช่วยดีๆ ที่ล้างเครื่องสำอาง สิ่งสกปรกหมดจด ได้ในขั้นตอนเดียว ไม่ทิ้งความมันตกค้าง ที่เป็นสาเหตุจากการเกิดสิว และคืนความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มน้ำได้เป็นอย่างดี https://lagraceclinic.com/product/cleansing-oil/

จัดการเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกในขั้นตอนแรกแล้ว เพียงล้างหน้าด้วย FOAMING MOUSSE CLEANSER โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก เพียงเท่านี้ก็มีผิวหน้าที่สะอาดหมดจด สนใจคลิก https://shop.line.me/@lagraceclinic/product/1000379043

2. ชอบเผลอเอามือสัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ

            สาวๆ คงทราบกันดีค่ะว่า มือเป็นอวัยวะที่ใช้ในการจับสิ่งของ ผ่านการแตะต้องสิ่งต่างๆ มากมาย จากการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์งานบนคีย์บอร์ด จับเมาส์ทำงาน จึงทำให้มือเราเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และแบคทีเรียจำนวนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว  สำหรับสาวๆ ที่มักเผลอเอามือสัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ โดยไม่รู้ตัว ต้องรีบสังเกตตัวเองให้ไว เพื่อป้องกันพฤติกรรมเหล่านี้กันนะคะ เพราะการเอามือสัมผัสใบหน้า นอกจากจะสะสมสิ่งสกปรก และเชื้อโรคบนใบหน้าแล้ว ยังก่อให้เกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือสิวหัวช้าง บนผิวได้อีกนั่นเอง

3. ไม่ค่อยทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน

ผ้าห่ม ผ้าปู หรือปลอกหมอนก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เราเกิดสิวได้นะจ้ะ เพราะผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน รวมทั้งปลอกหมอน เป็นอีกหนึ่งแหล่งสะสมเชื้อโรคที่สำคัญ ที่เรามักชะล่าใจคิดว่าสะอาดอยู่เสมอ อย่างที่ทุกคนทราบกันดีค่ะว่าเชื้อโรค และแบคทีเรียนั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองเห็นกันได้ง่ายๆ ด้วยตาเปล่า ยิ่งบางคนหลังกลับจากออกไปทำกิจกรรมข้างนอกมาแล้ว อาจจะกระโจนลงบนที่นอนโดยไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายก่อน ซึ่งทำให้เชื้อโรคที่ได้รับขณะอยู่ข้างนอกนั้น พลอยสะสมอยู่บนหมอน ที่นอนผ้าห่มของเราไปด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้การทำความสะอาดผ้าปูที่นอนนานๆ ครั้ง นอกจากจะส่งกลิ่นเหม็นอับแล้ว ยังหมักหมมเป็นสาเหตุให้มีสิวลักษณะต่างๆ เกิดขึ้น เช่น สิวอุดตัน สิวผด สิวอักเสบ ที่ขึ้นมาตามแก้ม คาง หรือบนใบหน้าเรานั่นเอง

4. ความเครียด

ความเครียดเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สาวๆ เกิดสิวได้ โดยเฉพาะคนที่มีความเครียดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น อาจส่งผลถึงการเผาผลาญอาหาร รบกวนกระบวนการย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายเสียความสมดุล ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันเราต่ำลง รวมไปถึงสุขภาพผิวไม่แข็งแรง

นอกจากนี้ ความเครียดยังทำให้ร่างกายเราผลิตฮอร์โมน Corticotrophin-releasing ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าว จะไปกระตุ้นการหลั่งของ Cytokines ซึ่งเป็นสารโปรตีนที่หลั่งจากเซลล์ต่างๆ ในระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อตอบสนองภาวะการอักเสบ ทำให้ร่างกายมีการผลิตน้ำมันออกมาในปริมาณที่มากเกินไป เมื่อผิวมีน้ำมันส่วนเกินจำนวนมาก อาจส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคือง และทำให้เกิดการอุดตันภายในรูขุมขน นำไปสู่การเกิดสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ และยังทำให้สาวๆ มีความเสี่ยงเกิดสิวเห่อขึ้นมาได้อีกด้วยเช่นกันค่ะ

หากสาวๆ ที่กำลังเจอภาวะเครียด แนะนำค่ะว่าพยายามหากิจกรรมอะไรมาทำเพื่อช่วยผ่อนคลาย ไม่ให้ตัวเองต้องจมปลักอยู่กับความเครียดนานมากเกินไป ไม่งั้นจะส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายๆ ด้านในร่างกายของเราตามมา จนเกิดผลชัดเจนผ่านผิวหน้าโดยการเกิดสิวขึ้นนั่นเองค่ะ

สำหรับสาวๆ ที่ต้องการตัวช่วย ในการฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรง พร้อมห่างไกลสิว สามารถใช้เวชสำอางสูตรอ่อนโยน โดยคุณหมอ ด้วย Age Defying Serum สารสกัดจากแพลงก์ตอนทะเล ที่มีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรง และความยืดหยุ่นให้แก่เซลล์ผิว ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ได้ https://lagraceclinic.com/product/age-defying-serum/

5. พักผ่อนน้อย หรือนอนดึก

อีกหนึ่งพฤติกรรมที่ส่งผลให้ร่างกายเราอ่อนแอ ผิวเป็นสิว สาวๆ อาจเคยได้ยินบ่อยครั้งว่าการนอนดึก หรือพักผ่อนน้อยนั้น ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ทว่าอาจไม่ได้ใส่ใจถึงความจริงที่ว่า เขามีกระบวนการอะไรที่ทำให้สุขภาพเรานั้นแย่ลง

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีค่ะว่า การพักผ่อน จะเป็นการซ่อมแซมส่วนต่างๆ ในร่างกายให้สามารถทำงานได้ดี ซึ่งการนอนดึกจะทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมส่วนต่างๆ ได้ดี รวมไปถึงไม่สามารถซ่อมแซมผิวพรรณได้ นอกจากนี้การพักผ่อนไม่เพียงพอ ยังก่อให้เกิดอาการเครียด ส่งผลหลายๆ ด้านตามมา อาทิ สิวเครียด ที่เป็นสิวผด สิวอุดตัน และสิวอักเสบ อย่างที่เคยกล่าวมาข้างต้นนั่นเองค่ะ

6. ไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า หรือดื่มน้ำน้อย

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าร่างกายคนเรานั้น มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 2 ใน 3 ทั้งนี้ในส่วนของผิวหน้าจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 35% จึงเป็นสาเหตุที่สาวๆ อาจจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 – 2.2 ลิตร หรือประมาณ 8 – 10 แก้วต่อวัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน หรือขาดน้ำ

เพราะหากผิวเราแห้งเสีย ขาดน้ำ ร่างกายจะทำการขับไขมันออกมา ซึ่งในบางครั้งอาจทำให้ไขมันออกมาในปริมาณที่มากเกินไป จึงทำให้หน้ามัน และเมื่อผิวหน้ามันแล้ว สิ่งสกปรกต่างๆ ตามอากาศจะสามารถจับตัวบนผิวเราได้ง่าย ซึ่งนอกจากทำให้ผิวหน้าสกปรกแล้ว ยังทำให้เกิดการอุดตัน จนเป็นสิวต่างๆ อย่างสิวอักเสบ สิวอุดตัน ตามมาได้นั่นเองค่ะ

ด้วยเหตุนี้ การดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำทุกวัน นอกจากจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเราได้ดีแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายขับสารพิษ ทำให้ไม่เป็นสิวได้ง่ายค่ะ            

สาวๆ ที่เจอปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้องการตัวช่วยบำรุงผิวให้กลับมาชุ่มชื้นโดยด่วน แนะนำไอเทมนี้เลยค่ะ MOISTURE LIPOSOME คืนความชุ่มชื้นตรงจุดแห้งกร้านได้เป็นพิเศษ สามารถแทรกซึมสู่เซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง https://shop.line.me/@lagraceclinic/product/1000203915

7. เผชิญกับมลภาวะต่างๆ ในทุกวัน

            การใช้ชีวิตประจำวัน แน่นอนค่ะว่า เราจำเป็นต้องออกไปเผชิญมลภาวะต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละอองที่ลอยตามอากาศ หรือฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังระบาดบ่อยในช่วงนี้ นอกจากนี้บางคนอาจมีอาชีพที่จำเป็นต้องเจอมลภาวะต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ต้องเจอกับฝุ่นควันในปริมาณมาก เพราะทำงานในร้านอาหาร หรืออาชีพที่ข้องเกี่ยวกับการก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้ต้องเจอฝุ่นที่เกิดจากกระแสลมลอยพัดตามอากาศค่อนข้างมาก ทั้งจากดิน ทราย ฝุ่นปูน เรียกได้ว่าเจอสารพัดฝุ่นกันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าจะเดินทางไปทำงานแบบปกติ แต่ทุกที่ก็ยังมีฝุ่นละออง เชื้อโรค และแบคทีเรียที่กระจายอยู่ตามอากาศได้เสมอ เรียกได้ว่าเรายังต้องเจอมลภาวะต่างๆ ได้ในทุกวัน แนะนำค่ะว่า เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ควรรีบเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า ด้วยคลีนซิ่งที่เหมาะสมกับสภาพผิว และ มีประสิทธิภาพให้มากที่สุดเพื่อป้องกันการเกิดสิวอุดตัน และเป็นสิวหัวช้าง จึงควรล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด ไม่ควรนอนพักผ่อนโดยที่ยังไม่ทำความสะอาดผิวหน้านะจ้ะ ไม่งั้นสิวจะตามมานั่นเองค่ะ

8. ทานของมัน ของทอด หรือช็อกโกแลตมากเกินไป

            สำหรับสาวๆ ที่ชอบทานของทอด หรือ ของมันมากเกินไป จะเป็นการสะสมไขมันในร่างกายไว้จำนวนมาก ซึ่งหากในร่างกายมีปริมาณไขมันที่มากจนเกินไป จะทำการขับออกมา และเมื่อเจอกับมลภาวะภายนอกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละอองตามอากาศ เชื้อโรค หรือแบคทีเรียมาจับ ก็จะเกิดการอุดตัน จนผิวเป็นสิว และเกิดสิวอักเสบได้ง่าย

ในขณะเดียวกันช็อกโกแลตเองก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบ หรือสิวอุดตันได้ง่ายเช่นเดียวกัน แต่ยังมีบางงานวิจัยที่ได้เปิดเผยว่าการกินช็อกโกแลตแล้วทำให้เกิดสิวได้นั้น สาเหตุอาจเป็นผลมาจากส่วนประกอบที่มีอยู่ในช็อกโกแลต เช่น นม เนย น้ำตาล ที่อาจเป็นตัวต้นเหตุในการกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายให้เกิดสิวได้ง่าย โดยเฉพาะสิวอักเสบ และสิวอุดตัน เป็นต้น

9. ละเลยการดูแลของใช้ส่วนตัว

เชื่อว่าหลายคนอาจไม่ได้ตระหนักถึงการดูแลของใช้ส่วนตัวต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันบ่อยๆ อย่างเช่น โทรศัพท์ แปรงแต่งหน้า ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเช็ดตัว เป็นต้น เพราะคิดว่าสิ่งของเหล่านี้ เราจำเป็นต้องนำออกมาใช้อยู่บ่อยๆ เลยอาจไม่มีเวลาดูแล หรือไม่ได้ทำความสะอาดมากนัก หากสาวๆ ที่กำลังทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่ อาจจะต้องหันมาตะหนัก และใส่ใจเขาให้มากขึ้น

เพราะของใช้ส่วนตัว ยิ่งเป็นของที่เราใช้บ่อยๆ แน่นอนค่ะว่าจะต้องเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค และแบคทีเรียต่างๆ มากมาย ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ ดังนั้น เมื่อเรานำสิ่งของต่างๆ มาสัมผัสใบหน้าของเราแล้ว ก็จะทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเกาะสะสมตามผิวหน้า จนเกิดการอุดตัน ทำให้ผิวเป็นสิวต่างๆ โดยเฉพาะสิวอักเสบ สิวอุดตัน และอาจทำให้เป็นสิวเห่อได้ด้วยเช่นกันค่ะ

พฤติกรรมดังกล่าวนี้ จะเป็นเพียงวิธีการเบื้องต้น ที่จะช่วยเราลดความเสี่ยงในการเป็นสิวได้น้อยลง ซึ่งไม่ได้เป็นการรักษาสิวโดยแท้จริง นอกจากนี้เพื่อให้เรามีผิวหน้าที่ดี และห่างไกลสิว จึงจำเป็นจะต้องดูแลใส่ใจตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และยืนยาวขึ้นนั่นเองค่ะ

How to มีวิธีดูแลผิวอย่างไร? ให้ห่างไกลสิว ฉบับเร่งรัด

         สาวๆ รู้ไหมว่า นอกจากการดูแลผิวให้ห่างไกลสิวด้วย Skincare ต่างๆ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนมักนิยมทำกัน นั่นคือการทำหัตถการต่างๆ ซึ่งสามารถเข้ารับบริการในสถานที่ซึ่งมีมาตรฐานความปลอดภัยสูงอาจจะเป็นในโรงพยาบาล หรือคลินิกเสริมความงามตามสถานที่ต่างๆ แต่การทำหัตถการนั้น จำเป็นต้องมีความปลอดภัยสูง ดังนั้นหากเป็นคลินิกควรเช็กเลขที่ใบอนุญาตในการเปิดบริการ 11 หลัก ที่จะต้องมีติดอยู่บนหน้าร้าน พร้อมชื่อคลินิกที่ให้บริการแบบชัดเจนด้วยค่ะ

            สำหรับการทำหัตถการเพื่อดูแลผิว จะเป็นวิธีการที่สามารถแสดงผลได้ชัดเจน และค่อนข้างมีประสิทธิภาพ โดยที่สาวๆ ไม่ต้องรอผลนานเกินไป แต่สามารถแสดงผลได้อย่างคุ้มค่า ทั้งนี้ จะมีอะไรบ้าง? ไปเช็กกันเลยค่ะ

ฟื้นฟูผิวอ่อนล้าจากภายใน ให้สดใส มั่นใจสู่ภายนอก

เชื่อว่าคนรักผิวอย่างเราๆ คงไม่พลาดการหาอาหารเสริมดีๆ เข้ามาช่วยในการบำรุงผิวให้หน้าใส หรือหายจากสิว เพราะเชื่อว่าอาหารเสริมจะเข้ามาช่วยฟื้นฟูผิวพรรณจากภายใน ให้สวยสดใส และสุขภาพดีสู่ภายนอก แต่ทว่าการทานอาหารเสริมเหล่านั้น อาจไม่ได้ให้ผลชัดเจนในแบบที่เราต้องการ หรือกว่าจะเห็นผลก็ใช้เวลายาวนานเกินไป ดังนั้น ด้วยความทันสมัย และความก้าวหน้าของโลกในยุคปัจจุบัน จึงได้มีการเติมวิตามินเข้าสู่ร่างกายแบบใหม่ที่ให้ผลดี และร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าการทานอาหารเสริม นั่นก็คือ Drip Vitamin นั่นเองค่ะ

Drip Vitamin คืออะไร? ดริปวิตามิน จะเป็นการเติมวิตามินผิว และเติมความสดชื่นให้แก่ร่างกาย ได้โดยที่ไม่ต้องรอนาน เพราะการทำดริปวิตามินจะสามารถนำวิตามินและเกลือแร่เข้าสู่หลอดเลือด และส่งผลในการบำรุงร่างกายได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย การดูดซึม หรือถูกคัดกรอง ผ่านด่านใดๆ ซึ่งไม่เหมือนกับการทานอาหาร หรือทานอาหารเสริม

นอกจากนี้ เมื่อร่างกายสามารถนำมาใช้งานได้แล้ว หลังจากนั้นจะถูกขับออกทางปัสสาวะ และอุจจาระโดยที่ไม่มีการสะสม หรือตกค้างเป็นอันตรายอยู่ในร่างกายเราอีกด้วยค่ะ ทั้งนี้ การทำดริปวิตามินต่างมีสูตรเฉพาะที่ช่วยเราในเรื่องต่างๆ ที่แตกต่างกันไป สาวๆ สามารถเลือกได้ว่าอยากดูแลผิวแบบไหน โดยแพทย์จะเป็นผู้คอยแนะนำและให้คำปรึกษาก่อนทำเพื่อผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพต่อเรานั่นเอง

สิวกวนใจ รักษาสิวได้ด้วยวิธีนี้        

สำหรับสาวๆ ที่กำลังเผชิญกับปัญหาสิวบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นสิวผด สิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ และต้องการรักษาสิวแบบเห็นผลชัดเจน ที่ ลา กราซ คลินิกเองก็มีโปรแกรมที่ช่วยสาวๆ เคลียร์สิวได้เฉพาะเช่นกัน เป็นโปรแกรมรักษาสิว ที่นอกจากจะช่วยรักษาสิวแล้ว ยังช่วยดูแลผิวให้กลับมาแข็งแรง และสุขภาพดีได้ด้วยเช่นกัน  

โปรแกรมรักษาสิวที่ ลา กราซ คลินิก จะเป็นการกำจัดสิวตั้งแต่วงจรสิว และช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยแดง รอยดำจากการเป็นสิว เรียกได้ว่าจัดการให้ครบ จบ ทุกปัญหาที่เกิดจากสิวได้เลยนั่นเอง ทั้งนี้การรักษาสิวจะมีขั้นตอนต่อไปนี้ค่ะ

1. กดสิว เพื่อเคลียร์สิวเก่า และสิวอุดตันให้หมดไป 2. ทำ Rejuvenation Laser เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อสิว กระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ให้ผิวกลับมาสดใส รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยดูจางลง เผยผิวที่เรียบเนียน และอ่อนเยาว์กว่าเดิมค่ะ รู้จักกับ Rejuvenation เลเซอร์หน้าใส อ่อนกว่าวัย ไม่มีบาดแผล

3. ทำ Mask Acne วิธีการนี้จะเป็นการมาสก์หน้า เพื่อช่วยลดการอักเสบของสิว นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยแดง รอยดำจากสิว พร้อมดูดซับความมันส่วนเกินให้อีกด้วยค่ะ

รักษาสิวหายแล้ว แต่ยังมีหลุมสิวมากวนใจ ให้ชีวิตต้องสะดุด ทำยังไงดี?

 ขึ้นชื่อว่า “สิว” ไม่ว่าจะเป็นสาวๆ หรือหนุ่มๆ ต่างต้องพบเจอกับปัญหาที่ตามมาจากการเป็นสิวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีริ้วรอยแผลเป็น และจุดด่างดำบนใบหน้าแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่น่าหนักใจก็คือหลุมสิว เพราะไม่ใช่ปัญหาที่สามารถจัดการได้ง่ายโดยการทานอาหารเสริม หรือใช้สกินแคร์ ในการรักษา

 **ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับ และปริมาณการเกิดหลุมสิวที่อยู่บนใบหน้า

สำหรับใครหลายคนที่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่ จะไม่ต้องกังวลอีกต่อไป หากได้รู้จักกับ โปรแกรม Miracle Deep Gold หัตถการที่จะเข้ามาช่วยจัดการปัญหาเรื่องหลุมสิว เพื่อให้สาวๆ หนุ่มๆ มีผิวที่เรียบเนียน ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจ โดยที่ไม่ต้องสะดุดหลุมสิวอีกแล้วค่ะ 

Miracle Deep Gold เป็นเครื่องมือที่ใช้นวัตกรรมการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ที่จะช่วยให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิว และเร่งกระบวนการสร้างคอลลาเจนให้เกิดได้เร็วขึ้น ซึ่งปลอดภัยกับทุกสภาพผิว ช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวจะเนียนใส รูขุมขนกระชับ มีสีผิวที่สม่ำเสมอขึ้น จุดด่างดำจากสิวลดลง ช่วยลดเลือนริ้วรอย ผิวตึงกระชับ แน่นอนค่ะว่าหลุมสิวที่เป็นปัญหากวนใจก็ตื้นขึ้น และมีผิวหน้าที่เรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัดขึ้นนั่นเอง สนใจ ดูรายละเอียดแบบครบประเด็น คลิกที่นี่เลย https://lagraceclinic.com/services/รักษาหลุมสิว-ปลูกผิวใหม/

ไม่ว่าสาวๆ หรือหนุ่มๆ จะมีปัญหาผิวแบบไหน ที่ ลา กราซ คลินิก เองก็มีบริการที่พร้อมซัพพอร์ตอย่างหลากหลาย เพราะเราเป็นคลินิกเสริมความงามภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern Innovative Elegant Beauty ที่ให้บริการด้านความงามแบบครบวงจร พร้อมการให้ความสำคัญในเรื่องการดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์ที่มากประสบการณ์ เพื่อให้ทุกคนได้สวยอย่างมั่นใจ และปลอดภัย จึงได้มีการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยอยู่เสมอค่ะ