ปัจจุบันเทรนด์การฉีดสารเติมเต็มหรือ ฟิลเลอร์ กำลังมาแรงในหมู่สาวๆ เพราะ Filler เป็นหนึ่งในวิธีการยกกระชับใบหน้า เติมเต็มส่วนที่ขาดให้กลับมาอิ่มฟู ซึ่งค่อนข้างเห็นผลเร็ว ฉีดปุ๊บ ก็จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที
Filler เป็นสารที่ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มส่วนต่างๆ ของร่างกาย แก้ปัญหาโครงสร้างผิวขาดวอลลุ่ม โดยสารเติมเต็มที่นิยมใช้มากที่สุด และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก คือ HA หรือ Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารเลียนแบบสารที่มีในร่างกายตามธรรมชาติ
การฉีด Filler จะช่วยเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก ที่เกิดขึ้นตามจุดต่างๆ บนใบหน้า ช่วยทำให้ใบหน้าเต่งตึง มีน้ำมีนวล ริ้วรอยร่องลึกที่เคยมีจะดูตื้นขึ้น เหมือนการเติมคอลลาเจนให้ผิวกลับมาดูอิ่มเอิบ ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย
การฉีดฟิลเลอร์ ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และควรให้แพทย์เป็นผู้ฉีด เพราะต้องฉีดให้ถูกตำแหน่ง จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย เมื่อฉีดไปแล้ว สามารถเห็นผลทันที ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 6 เดือน หรือขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว ควรมีการดูแลตัวเอง เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไป เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร และคงความสวยไว้ได้นานๆ
วันนี้ ลา กราซ คลินิก มีวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด Filler มาฝากกันค่ะ มาดูกันว่าเราควรปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง
การดูแลหลังฉีด ฟิลเลอร์
- ควรดื่มน้ำให้เยอะๆ วันละ 8-16 แก้ว ในช่วง 3-4 วันหลังฉีด
เพราะสารไฮยาลูรอนิก ที่ฉีดเข้าไป เป็นสารที่อุ้มน้ำได้ดี การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำ มีประสิทธิภาพดีขึ้น และทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ดูอิ่มเต็ม เป็นธรรมชาติ แพทย์จึงแนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตรต่อวัน หลังจากฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 3-4 วันแรก
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่ทำให้เลือดออกง่าย
ควรหลีกเลี่ยงยา หรืออาหารเสริม ประเภท แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา หรือเมล็ดแปะก๊วย โดยควรหลีกเลี่ยงยา และอาหารเสริมเหล่านี้ ทั้งก่อน และหลัง การฉีดฟิลเลอร์ เพราะยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดการช้ำได้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงครีมบำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของ BHA , AHA , หรือ Retinoid ชั่วคราว เนื่องจากครีมเหล่านี้ อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณที่ฉีด ฟิลเลอร์ได้
- หลีกเลี่ยงการลูบคลำ หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด Filler
หลังฉีด ฟิลเลอร์ ไม่ควรสัมผัสบริเวณที่ฉีดด้วยความรุนแรง เช่นการกด นวดคลึง เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนจากบริเวณที่ฉีด ทำให้ผลที่ได้ ไม่สวยตรงตามที่แพทย์อกแบบไว้
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและความร้อน 2 วันหลังฉีด
หลังฉีดไปแล้ว ไม่ควรโดนความร้อนที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ซาวน่า , Hot Spa หรือ การเสริมความงามที่ใช้ความร้อน ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพราะความร้อนจะทำให้ผิวมีความยืด หรือ หดตัว มากกว่าปกติ ฟิลเลอร์ อาจจะเซ็ตตัวไม่ดี ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดเสียรูปทรงได้ นอกจากนี้ ความร้อนอาจทำให้ผิวบริเวณที่ฉีด เกิดรอยแดง และการระคายเคืองได้
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และ สูบบุหรี่
แอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีด เพราะหลอดเลือดขยายตัว จึงอาจทำให้เลือดออกบริเวณที่ฉีด ฟิลเลอร์ ได้ ส่วนบุหรี่นั้น เป็นสารเสพติดที่ไม่ได้ให้ประโยชน์แก่ร่างกายอยู่แล้ว และในบุหรี่ยังมีสารหลายชนิดที่ไปขยายหลอดเลือด จึงอาจทำให้มีอาการบวมนานขึ้น
- พบแพทย์หลังฉีด ฟิลเลอร์ เพื่อติดตามผล
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดลงบนผิวหนังชั้นลึก ซึ่งมีโอกาส ที่จะโดนเส้นเลือดได้ การรับประทานยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาแก้อักเสบบางชนิด อาจทำให้เลือดหยุดไหลช้าลง และเกิดการช้ำได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าว ทั้งก่อนฉีดและหลังฉีดประมาณ 1 สัปดาห์
ทั้ง 7 ข้อนี้ เป็นข้อควรปฏิบัติเบื้องต้น หากทำตามได้อย่างเคร่งครัด การฉีดฟิลเลอร์ ก็จะได้ผล สวยงาม อย่างที่ตั้งใจไว้ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ยากเลยที่จะปฏิบัติตาม หรือถ้ายังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เรื่องการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่ La Grace Clinic มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา สามารถเข้ารับการปรึกษาได้ที่ La Grace Clinic ทุกสาขา หรือสอบถามเบื้องต้นได้ที่ Line:@lagraceclinic , IG:lagracebeautyclub , FB:lagracebeautyclub , โทร : 087-494-4000 , 087-494-9000
ข้อควรปฎิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่เกินความสามารถของทุกคน ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่ดี สวย ดูเป็นธรรมชาติ และผลคงอยู่ยาวนาน ก็ควรทำปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด หรือถ้ายังไม่มั่นใจว่ามีอะไรที่ควรทำหรือไม่ควรทำมากกว่านี้หรือไม่ ที่ APEX มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ทางด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง พร้อมจะให้คำแนะนำ แก้ปัญหาริ้วรอยด้วยสารเติมเต็มอยู่ เพราะเรื่องของริ้วรอยนั้นมองข้ามกันไม่ได้