เลเซอร์ขน ลงรากลึกไม่เหลือตอ เผยผิวเรียบเนียน
เลเซอร์รักแร้ แก้ปัญหาขนกวนใจ ที่แก้ยังไงก็ไม่หาย? หากสาวๆ ที่กำลังเจอปัญหาขนเหล่านี้อยู่ เชื่อว่าหลายคนคงลองใช้วิธีกำจัดขนที่หลากหลายแบบมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการโกนขน แว็กซ์ขน หรือถอนขน แต่ก็ยังไม่หายกวนใจ แถมเรื่องขนยังวนกลับมาซ้ำๆ รบกวนการใช้ชีวิตเราอยู่เป็นประจำ ด้วยวิธีการเหล่านี้ เป็นเพียงการกำจัดขนในระยะสั้น ซึ่งไม่ได้ลงลึกถึงรากขนเหมือนเลเซอร์ นอกจากนี้ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ขนขึ้นเป็นตอ ขนเกิดใหม่มีเส้นยาวขึ้น และเส้นขนแข็งกว่าเดิม หรือแม้กระทั่งอาจเกิดการระคายเคืองผิว และมีเส้นขนที่ขึ้นหนากว่าเดิมอีกด้วยค่ะ
ด้วยเหตุนี้ การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่เข้ามาช่วยกำจัดขนได้ดี และถาวร เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาขนและผิวต่างๆ ตามมานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น เลเซอร์รักแร้ เลเซอร์ขนแขน ขนขา บิกินี่ เป็นต้น
ขนหายถาวร ด้วยเลเซอร์ขนได้ไหม?
แน่นอนค่ะว่า “เรื่องขน” เป็นปัญหาคาราคาซังที่พรากความมั่นใจสาวๆ ไป แต่ทว่าด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้มีวิธีการกำจัดขนได้ง่ายขึ้น นั่นคือการเลเซอร์ เป็นวิธีการที่ใช้แสงยิงไปที่รูขุมขน และเซลล์รากขน ซึ่งความร้อนจะทำลายขนให้หลุดร่วงจากรากโคน เป็นอีกวิธีที่สามารถกำจัดขนได้ดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพและเห็นผลในระยะยาว ทั้งนี้จำเป็นต้องเลเซอร์ขนต่อเนื่อง อย่างน้อย 5-8 ครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ขนเกิดช้า และบางลง หลังจากนั้นขนจะค่อยๆ หมดไปในที่สุด
เครื่องมือเลเซอร์ที่ใช้ในการกำจัดขน
เทคโนโลยีที่ช่วยกำจัดขน หรือเรียกว่าเครื่องเลเซอร์ จะมีหลากหลายชนิด ขึ้นอยู่ที่วัตถุประสงค์ และประโยชน์ของการใช้งาน แต่จะมีเครื่องเลเซอร์กำจัดขนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 3 แบบ ได้แก่ พลังงานคลื่นแสง IPL, Diode Laser และ Nd Yag Laser ซึ่งทั้ง 3 แบบนี้ จะมีวิธีการในการทำงานที่แตกต่างกันออกไป แต่ละแบบ จะมีคุณสมบัติอะไรบ้าง? มาทำความรู้จักกัน…
พลังงานคลื่นแสง IPL
เป็นการใช้คลื่นแสงที่มีความเข้มข้นสูง แต่มีลักษณะความยาวคลื่นที่สั้น ทำให้พลังงานไม่สูงพอที่จะสามารถทำลายรากขนได้ทั้งหมด จึงมีขนงอกใหม่เรื่อยๆ แต่ขนจะบางลงกว่าเดิม และต้องทำหลายๆ ครั้ง
Diode Laser
เป็นเทคโนโลยีพลังงานแสง ที่มีความยาวคลื่นหลากหลาย จะอยู่ที่ 800 – 1,350 nm.ซึ่งพลังงานแสงจะไปจับเมลานินที่อยู่ตรงขนให้หลุดออก แต่ไม่สามารถลงลึกเท่า Nd Yag เป็นเลเซอร์ที่เหมาะสำหรับกำจัดขนในบริเวณกว้าง ที่ไม่ต้องการความละเอียดมากเป็นพิเศษ เช่น ขนแขน ขนขา ทั้งนี้ Diode laser จะมีระบบทำความเย็น ช่วยให้ไม่เจ็บผิว แต่ความถี่ในการทำจะอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์/ครั้ง ซึ่งอาจไม่เห็นผลในทันที และมีโอกาสในการทำร้ายผิวบริเวณใกล้เคียงได้
Nd Yag Laser
เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวลำแสงที่ 1,064 nm. มีวิธีการทำงานโดยส่งผ่านพลังงานความร้อน และแสงเลเซอร์ไปที่รากขนโดยตรง เมลามีนที่รากขนจะดูดซับพลังงานแสง เมื่อรากขนดูดซับพลังงานไปถึงระดับหนึ่งแล้ว รากขนจะฝ่อและหยุดการเจริญเติบโต และถูกทำลายอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีผลข้างเคียง เช่น รอยไหม้ รอยแดง หรือการอักเสบ แสบร้อนบริเวณที่ทำ รวมไปถึงไม่ทำร้ายผิวบริเวณใกล้เคียง จึงเป็นเลเซอร์ที่เหมาะสำหรับกำจัดขน ในบริเวณที่ต้องการความละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ เช่น ขนรักแร้ หนวดเครา ขนบนใบหน้า หรือจุดซ่อนเร้น เป็นเลเซอร์ที่ไม่ต้องทำบ่อยเลยค่ะ ระยะความถี่ในการทำประมาณ 1 เดือน/ครั้ง และเห็นผลรวดเร็ว
เลเซอร์รักแร้ ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ แบบไหนดี?
หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมคงหนีไม่พ้น Nd Yag laser เนื่องจากเป็นเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง และเหมาะกำจัดขนในบริเวณร่างกายที่ต้องการความละเอียดอ่อน ระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ขนรักแร้ หนวดเครา ขนบนใบหน้า หรือจุดซ่อนเร้น เพราะเป็นเลเซอร์ที่มุ่งเน้นกำจัดขนลงลึกถึงรากโคนโดยตรง จึงไม่ทำร้ายผิว และไม่เป็นอันตรายต่อผิวข้างเคียง อีกทั้งความถี่ในการทำจะน้อยกว่าเครื่องมืออื่น ระยะที่ต้องทำจะอยู่ที่ประมาณ 1 เดือน/ ครั้ง นั่นเอง
“เลเซอร์รักแร้” มีข้อดีอะไรบ้าง?
– จัดการปัญหาขน กำจัดขนใต้วงแขนให้หมดไป
– การเลเซอร์ขน จะใช้เวลาในการทำไม่นาน และไม่ต้องกลัวเจ็บ หรือบาดผิวจากมีดโกน
– ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดการเกิดผิวหนังไก่ และปัญหาขนคุด
– ลดการเกิดผิวหมองคล้ำ ป้องกันปัญหาผิวหนังต่างๆ
– ช่วยให้ความหนาของเส้นขนรักแร้บางลง
– ขนขึ้นช้ากว่าเดิม ค่อยๆ บางลง และหมดไปในที่สุด
– จบวงจรขน ไม่ต้องคอยมากำจัดขนบ่อยๆ และเสี่ยงเกิดปัญหาเรื่องขนต่างๆ มากมาย
กำจัดขนรักแร้ แบบไม่ต้องเลเซอร์ได้ไหม?
การกำจัดขนรักแร้ มีวิธีการที่หลากหลาย แต่ทว่าวิธีการเหล่านี้กลับให้ผลลัพธ์ในระยะเวลาอันสั้น เพราะนอกจากจะไม่สามารถกำจัดขนลงลึกถึงรากแล้ว ยังก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว หรือปัญหาขนอื่นๆ ตามมาด้วย เช่น
– การโกน สามารถใช้มีดโกนหรือเครื่องไฟฟ้าทำเองที่บ้านได้ง่าย แต่ผลลัพธ์อาจไม่ได้ตอบโจทย์ตามที่เราต้องการ เพราะอาจเสี่ยงเกิดแผลจากการโดนมีดโกนบาด อาการระคายเคืองผิว ตุ่มแดง และอยู่ได้ประมาณ 1-3 วัน ต้องกลับมาโกนขนใหม่ นอกจากนี้ยังมีโอกาสสูงที่เส้นขนขึ้นใหม่จะแข็งและหนากว่าเดิมนั่นเอง
– การใช้มูส หรือครีมกำจัดขน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำเองที่บ้านได้ง่าย และไม่เสี่ยงบาดเจ็บ เพราะเพียงนำผลิตภัณฑ์ในการกำจัดขนมาทาบนบริเวณที่ต้องการ ก็สามารถโกนหรือใช้อุปกรณ์ปาดขนให้หลุดออกได้โดยง่าย แต่ทว่าระยะเวลาอาจอยู่ได้ประมาณ 3–7 วัน นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บางชนิด อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ มีผื่นคัน และบางรายอาจเจอปัญหาการเกิดขนเส้นใหม่ที่ยาวและหนากว่าเดิมอย่างมาก
– การแว็กซ์ เป็นวิธีการใช้น้ำผึ้งทาลงบนผิวที่ต้องการกำจัดขนออก จากนั้นวางแถบผ้าลงบนแว็กซ์ กดให้แน่นและทิ้งไว้ 2–3 วินาที แล้วดึงผ้าออกอย่างรวดเร็ว ทำให้ขนหลุดออก ผิวเรียบเนียนขึ้น แต่เป็นวิธีการที่เจ็บ และอาจพบรอยแดง หรือมีอาการบวมหลังจากการแว็กซ์ขนเป็นเวลานานกว่า 2 วัน
– การถอน เป็นวิธีการที่ใช้แหนบ หรือที่ถอนขนดึงเส้นขนออกมาทั้งเส้น ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด และมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่ระหว่างการถอนอาจมีเส้นขนหักและเหลือเป็นตอไว้ ทำให้มีอาการคัน และการถอนขนอาจทำให้เจ็บ และบวมแดงได้เช่นกัน
ก่อนกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ควรเตรียมตัวดังนี้
เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ การใส่ใจตัวเองก่อนเข้ารับบริการจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดีต่อผิวของเรา ก่อนเข้ารับบริการเลเซอร์ขนภายใน 1–2 สัปดาห์ ควรเตรียมตัวยังไงบ้าง? ไปดูกัน…..
1. ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดให้มากที่สุด
2. งดการแว็กซ์ การถอนขน หรือกำจัดขนจากวิธีต่างๆ
3. งดการสครับผิว ผลัดเซลล์ผิวบริเวณรักแร้
4. พยายามอย่าให้ผิวบริเวณรักแร้โดนแดดจัดก่อนมาทำเลเซอร์กำจัดขน
หลังกำจัดขนด้วยเลเซอร์ มีวิธีการดูแลผิวอย่างไรดี?
แน่นอนค่ะว่าการเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญ ในขณะเดียวกันการดูแลผิวตัวเองหลังจากที่เลเซอร์ขนแล้ว ก็เป็นอีกอย่างที่เราต้องทำควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งๆ ขึ้น และไม่ว่าเราจะเป็นตัวแม่ ตัวมัม แต่ถ้าไม่ให้ความสำคัญในการดูแลตัวเองหลังทำ ก็อาจทำให้มีปัญหาตามมาทีหลังได้ ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการทำเลเซอร์ขนที่ดี ดูแลตัวเองได้ตามนี้เลยนะทุกคน
1. งดใช้โรลออน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบริเวณรักแร้ หลังทำ 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองผิว
2. บำรุงผิวใต้วงแขนหลังเลเซอร์ให้เกิดความชุ่มชื้นเสมอ ด้วย Aloe Vera gel
3. งดสครับ ขัดผิว 3 สัปดาห์ เพราะเป็นช่วงที่ผิวบอบบาง อาจทำให้ผิวอักเสบได้ง่าย
4. งดการถอนขน โกนขน หรือแวกซ์ขนหลังทำ
5. หากเส้นขนขึ้น ควรปล่อยให้เส้นขนค่อยๆ ยาว และหลุดร่วงไปเอง
6. งดว่ายน้ำในสระที่มีสารคลอรีนหลังทำ ใน 48 ชั่วโมง
7. งดอาบแดด อบซาวน่า เพราะแสงและความร้อนอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้
เลเซอร์รักแร้ ควรทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
สำหรับการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ขนจะหายไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และเมื่อทำต่อเนื่อง 3–5 ครั้ง จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เช่น ขนเกิดใหม่ขึ้นช้า เบาบางลง และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ควรทำเลเซอร์ขนอย่างน้อย 5–8 ครั้ง โดยระยะห่าง 1-2 เดือน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับลักษณะขน และบริเวณที่ทำการกำจัดขน เช่น กรณีที่มีขนดก อาจจะต้องทำมากกว่า 5 ครั้ง แต่สำหรับคนที่มีขนน้อย อาจจะแค่ 2-3 ครั้ง ก็ทำให้วงจรขนที่ขึ้นใหม่ลดน้อย และช้าลงอย่างมาก จนดูคล้ายกับไม่มีขนรักแร้แล้วนั่นเอง
นอกจากเลเซอร์รักแร้แล้ว ยังสามารถกำจัดขนบริเวณต่างๆ ได้อีกนะ
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า นอกจากเลเซอร์รักแร้แล้ว เรายังสามารถกำจัดขนบนบริเวณต่างๆ ได้เช่นกัน ว่าแต่มีบริเวณไหนบ้าง? ไปดูกัน
– เลเซอร์ขนหน้า หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าขนใบหน้านั้นส่งผลเสียต่อผิวหน้าเราได้เช่นกัน นอกจากจะทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียนแล้ว ยังทำให้การแต่งหน้าของเรามีอุปสรรคได้ด้วย เช่น เกลี่ยรองพื้นไม่เนียน ผิวเป็นขุย มีคราบ เป็นต้น ซึ่งการกำจัดขนบนใบหน้า นอกจากจะทำให้เรามีผิวที่เรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ยังช่วยลดความมันส่วนเกิน ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป พร้อมเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส และช่วยให้การเมคอัพติดทนได้ตลอดทั้งวันค่ะ
– เลเซอร์หนวดเครา บอกลาการโกน ไม่ต้องเสี่ยงบาดเจ็บเพราะโกนขนหนวดอีกต่อไป เพราะเราสามารถกำจัดขนได้ง่ายๆ ด้วยการเลเซอร์ ที่ช่วยกำจัดขนหนวดเคราทั้งของผู้ชาย และขนหนวดเส้นเล็กๆ บนใบหน้าของผู้หญิงได้ ช่วยให้เรามีใบหน้าที่เรียบเนียน นอกจากไร้ขนแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องขนขึ้นเป็นตอด้วยเช่นกันค่ะ
– เลเซอร์ขนขา ขนแขน เหมาะสำหรับสาวๆ ที่รักการแต่งตัวเป็นที่สุด เพราะในชีวิตประจำวันเรานั้นต่างมีสิ่งที่ต้องทำมากมาย การแต่งกายแต่ละโอกาสก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบแต่งตัวแฟชั่น จะไปปาร์ตี้ เข้าผับกับเพื่อนสาว หรือนุ่งบิกินี่ ใส่ขาสั้น การมีผิวที่เรียบเนียนก็อาจทำให้สาวๆ หลายคนรู้สึกดี และมั่นใจได้ขึ้น แน่นอนค่ะว่าหลายคนอาจกำจัดขนเองหลากวิธีที่แตกต่างกันไป แต่ขนก็ยังไม่หายกวนใจสักที ด้วยเหตุนี้การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ จึงตอบโจทย์ที่สุด เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมไม่แพ้เลเซอร์รักแร้ทีเดียว
– เลเซอร์บิกินี่ สาวๆ ที่ชอบเที่ยวทะเล นุ่งบิกินี่ต้องไม่พลาดเลยทีเดียว เพราะการเลเซอร์ขนบิกินี่นั้น นอกจากจะทำให้สาวๆ มีผิวที่เรียบเนียนแล้ว ยังสามารถเว้าสูงได้แบบมั่นใจเลยทีเดียว เพราะการกำจัดขนในจุดซ่อนเร้นจะช่วยเก็บขนทุกเส้นในจุดที่เราไม่ต้องการได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการเลเซอร์ขนบริเวณนี้ยังช่วยให้จุดซ่อนเร้นสาวๆ ไม่อับชื้น ไม่ต้องเจอปัญหาตุ่มหนังไก่ หรือผิวอักเสบจากขนคุดได้ค่ะ
เลือกคลินิกเลเซอร์ขน ที่ไหนดี?
1. คลินิกที่ได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง ในการทำเลเซอร์ขน
2. คลินิกที่ทำควรได้มาตรฐาน สะอาด และที่สำคัญต้องมีเลขที่ใบอนุญาตในการเปิดบริการ 11 หลัก
3. มีราคาในการเลเซอร์รักแร้ที่สมเหตุสมผล ไม่ควรถูกเกินไป เพราะอาจใช้เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผิวเราได้
4. เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีในการทำ ต้องเป็นคลินิกที่มีอุปกรณ์เพียบพร้อม ใช้เครื่องมือที่ทันสมัยอยู่เสมอ
5. ให้บริการ พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลหลังเลเซอร์รักแร้โดยผู้เชี่ยวชาญ
6. มีการติดตามผลหลังรับบริการเสมอ
https://www.topthaiclinic.com/10-คลินิกเลเซอร์กำจัดขน.html
