Ulthera หรือ Ulthrapy คือ โปรแกรมยกกระชับที่กล่าวกันว่า ได้ผลใกล้เคียงกับการผ่าตัดศัลยกรรมเลยทีเดียว ที่กล่าวเช่นนั้นเพราะ อัลเทอร่า จะส่งคลื่น Ultrasound ความถี่สูง มีความเฉพาะเจาะจง (High-Intensity Focused Ultrasound) และแม่นยำ ยิงลงไปใต้ชั้นผิว เพื่อให้เกิดความร้อน 60-70°C ลงลึกถึงใต้ผิวหนัง ด้วยพลังงานที่มีลักษณะเป็นจุดขนาด 1 mm เป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว ลงลึกไปถึงกล้ามเนื้อส่วนบนที่อยู่ใต้ผิวหนัง (SMAS) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า
เมื่อคลื่น Ultrasound ถูกปล่อยลงไปจนถึงชั้น SMAS จะถูกเปลี่ยนให้เป็นความร้อน ทำให้ผิวหดตัวและยกกระชับขึ้น กระตุ้นเส้นใยคอลลาเจนที่หย่อนคล้อยให้หดตัว กระชับ เหมือนเข็มที่เข้าไปเย็บกระชับพื้นที่ของคอลลาเจนใต้ผิว ให้ผิวตึงขึ้น กรอบหน้าคมชัดขึ้น สามารถแก้ปัญหาผิวได้แม่นยำ ตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ช่วยชะลออายุผิว และลดโอกาสเกิดริ้วรอยในอนาคต
ทำไม การลงพลังงานลึกถึงชั้น SMAS ช่วยลดอายุผิวได้
SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) คือผิวหนังชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน เป็นชั้นเนื้อเยื่อสำคัญของกล้ามเนื้อใบหน้า อยู่ระหว่างชั้นไขมันใต้ผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ ลึก 4.5 mm ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับหรือผ่าตัดดึงหน้า
ในชั้นผิว SMAS จะมี คอลลาเจน ที่เกาะกันเป็นเส้นใย มีความแข็งแรงและทนทาน ซึ่งในตอนที่ยังอายุน้อย คอลลาเจนยังเกาะเรียงกันอย่างแน่นหนา ทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ ไม่มีริ้วรอย จนเมื่อวันเวลาผ่านไป ชั้นผิว SMAS จะเริ่มเสื่อมลงตามวัย คอลลาเจนใต้ผิวที่เคยเกาะเรียงตัวกันอย่างแน่นหนา ก็เริ่มเกาะกันแบบหลวมๆ เหมือนคนไม่ค่อยรักกันแล้ว ทำให้เกิดการหย่อนคล้อยของใบหน้า มีร่องแก้มลึก แก้มหย่อน มีไขมันใต้คาง ร่องน้ำหมาก ดังนั้น ถ้าต้องการยกกระชับผิวที่เห็นผลลัพธ์ได้นานและมีประสิทธิภาพ จะต้องยกกระชับให้ลงลึกถึงชั้นผิว SMAS เพราะ ชั้นผิว SMAS มีความสัมพันธ์กับผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนังด้านบน หากชั้นผิว SMAS ถูกดึงให้ตึงขึ้น ก็จะส่งผลให้ผิวชั้นบนดูเต่งตึงตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูยกกระชับมากยิ่งขึ้น
แต่ที่ดีมากไปกว่านั้นคือ อัลเทอร่า ไม่ได้แค่เพียงเจาะจงลงไปทำงานที่ชั้นผิว SMAS เลยทีเดียว แต่มีหัวยิงที่สามารถลงลึกได้ตามระดับความลึกของผิวได้หลายระดับเพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกันในแต่ละชั้นผิว
การทำงานในชั้นผิวระดับต่างๆ
อย่างที่บอกไปว่า อัลเทอร่า มีหัวยิงสำหรับลงไปทำงานในชั้นผิวหลายระดับ ตั้งแต่ผิวหนังชั้นบนสุดจนไปถึงชั้นผิวที่ลึกที่สุด
หัวยิงลึก 1.5 mm สำหรับริ้วรอยผิวชั้นบน ในชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis) สามารถช่วยลดริ้วรอยที่อยู่บนผิวชั้นบนได้
หัวยิงลึก 3 mm สำหรับกระชับชั้นไขมัน (Subcutaneous) ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่มีเซลล์ไขมันและคอลลาเจนแนวตั้ง จึงช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิว โดยเฉพาะผิวบริเวณรอบดวงตา ใต้ตา และหน้าผาก และยังสามารถลงไปถึงชั้น SMAS บริเวณที่มีชั้นผิวบางได้ด้วย
หัวยิงลึก 4.5 mm สำหรับยิงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ผิวชั้นนี้ เป็นชั้นผิวที่มีคอลลาเจนแนวนอน เมื่อยิงไปจนถึงผิวชั้นนี้ จะสามารถยกบริเวณแก้ม เหนียง และบริเวณลำคอขึ้นมาได้
จะเห็นได้ว่า อัลเทอร่า ไม่ใช่แค่ยกกระชับผิว แต่ยังช่วยลดริ้วรอยได้ตั้งแต่ผิวชั้นบนสุดไปจนถึงผิวชั้นลึกสุด ทำครั้งแรกจะเห็นผลทันที 10-30% ใช้เวลาในการทำประมาณ 30-45 นาที (ไม่รวมช่วงแปะยาชา) ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี
Ulthera ช่วยเรื่องใดได้บ้าง?
ลดริ้วรอย
อัลเทอร่า เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการลดเลือนริ้วรอยที่เห็นชัด เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก และมุมปาก กระบวนการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ที่ถูกกระตุ้นโดยคลื่นเสียงพลังงานสูงจะช่วยเติมเต็มและยกกระชับผิว ทำให้ริ้วรอยและเส้นริ้วที่ลึกและตื้นค่อย ๆ ลดลง ผิวหนังจะมีความเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ยกกระชับผิว
ช่วยในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและลำคอ ซึ่งเป็นบริเวณที่มักจะเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยเมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการยกกระชับนี้เกิดจากการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ และผิวหนังชั้นลึกถูกยกขึ้น ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและแน่นมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ Ulthera ในบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง แขน และต้นขา เพื่อยกกระชับผิวในบริเวณเหล่านั้นได้เช่นกัน
การปรับรูปหน้า
อัลเทอร่า ไม่เพียงแต่ช่วยยกกระชับผิว แต่ยังช่วยในการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นอีกด้วย ด้วยการกระชับผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิว กระบวนการนี้จะช่วยลดการหย่อนคล้อยและเพิ่มความคมชัดของกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยปรับรูปหน้าบริเวณที่มีไขมันสะสมมาก เช่น บริเวณใต้คาง (Double Chin) ให้ดูเล็กลงและกระชับมากขึ้น
การทำ อัลเทอร่า เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการดูแลผิวที่หย่อนคล้อยและมีริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัดหรือพักฟื้นยาวนาน ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้นอย่างธรรมชาติและยาวนาน
ขั้นตอนการทำ Ulthera
- คุณหมอจะประเมินผิวหน้า ปัญหา และวางแผนการปรับรูปหน้า ตามสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคน
- หลังจากนั้นจะออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ด้วยเทคโนโลยี Micro Focused Ultrasound with Visualization (MFU-V) ยิงพลังงานคลื่นเสียง (Ultrasound) ลงชั้นผิวในระดับความลึกที่แตกต่างกัน ตามปัญหาผิวของแต่ละคน
- เมื่อวิเคราะห์ปัญหาแล้ว คุณหมอจะแจ้งจำนวน Line ในการยิงที่เหมาะสมของปัญหา
- เจ้าหน้าที่จะเข้ามาเตรียมผิว ทำความสะอาดผิวหน้า แปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที
- คุณหมอจะใช้เครื่อง อัลเทอร่า ยิงกระตุ้น โดยจะคอยดูพลังงานที่โฟกัสลงลึก ตรงจุด ทุกชั้นผิว บนหน้าจอเครื่องที่แสดงผลแบบ Real time และปรับพลังงานได้เหมาะสม ยิงได้ถูกชั้นผิว ตรงจุด แม่นยำ
- ใช้ระยะเวลาในการทำ ประมาณ 45-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวน Line และผิวบริเวณที่ทำ
- เห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันทีหลังทำ ประมาณ 30% ผิวหน้ายกกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง
Ulthera แต่ละตำแหน่งควรใช้กี่ Shot
การใช้ Shot ของ Ulthera ในแต่ละตำแหน่งจะต้องได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของผู้รับบริการ โดยจำนวน Shot ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการยกกระชับและความลึกของชั้นผิวที่ต้องการรักษา การกำหนดจำนวน Shot ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและคงทน โดยการใช้ Shot มากหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษา
ตัวอย่างเช่น ในการทำ Ulthera บริเวณใบหน้า อาจใช้จำนวน Shot อยู่ระหว่าง 300 – 400 Shot ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล บริเวณที่ต้องการยกกระชับมาก เช่น บริเวณขอบกรามและแก้ม อาจต้องใช้ Shot มากขึ้น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ส่วนบริเวณที่ต้องการปรับรูปหน้าเพียงเล็กน้อย เช่น หน้าผากและรอบดวงตา อาจใช้ Shot น้อยกว่า
นอกจากนี้ การทำ Ulthera ในบริเวณลำคอและเนินอก อาจใช้จำนวน Shot ที่แตกต่างกัน โดยปกติแล้ว การรักษาบริเวณลำคออาจใช้ประมาณ 200-400 Shot ขึ้นอยู่กับความหย่อนคล้อยของผิวและความต้องการของคนไข้
การปรับแต่งจำนวน Shot จะต้องได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ คนไข้ควรปรึกษากับแพทย์เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมตามสภาพผิวและความต้องการเฉพาะของแต่ละคน
Ulthera เหมาะกับใคร?
เนื่องจาก อัลเทอร่า เป็นหัตถการที่เด่นเรื่องการยกกระชับ แต่ก็สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้ด้วย ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้หลายอย่าง ทั้งยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอยรอบดวงตา เหนียง ลำคอ และ ทำได้ทุกช่วงอายุ การทำอัลเทอร่าจึงเหมาะกับผู้มีปัญหาเหล่านี้
- ผู้ที่ปัญหาผิวหน้าหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว กรอบหน้าชัดขึ้น โดยไม่ต้องทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า
- ผู้ที่ต้องการยกคิ้ว ยกหนังตา และลดถุงใต้ตา โดยไม่ทำให้โครงสร้างใบหน้าเปลี่ยนแปลง
- ผู้ที่มีริ้วรอยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก อัลเทอร่า จะช่วยฟื้นฟูผิวให้แน่น กระชับ รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียน
- ผู้ที่ต้องการ ยกระชับเหนียง ลดคางสองชั้น และริ้วรอยที่ลำคอด้วย
อัลเทอร่า ถือเป็นเทคโนโลยีเพียงหนึ่งเดียว ณ ตอนนี้ ที่ลงไปทำงานที่ผิวชั้นลึกสุด โดยระหว่างทำจะสามารถเห็นชั้นผิวได้แบบ real time (จริงๆ Hifu ก็ลงไปทำงานที่ผิวชั้น SMAS เหมือนกัน แต่ Hifu ไม่มีหน้าจอแสดงชั้นผิวระหว่างทำเหมือน อัลเทอร่า ) ถือเป็นนวัตกรรมด้านความงาม ที่ทำให้ลืมเรื่องการผ่าตัดดึงหน้าไปได้เลย เพราะ อัลเทอร่า ไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จก็แต่งหน้า ออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในบางคนอาจมีอาการบวม เพราะความร้อนสะสมใต้ผิว ซึ่งจะหายบวมภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่มีข้อระมัดระวังบางอย่าง เช่น ไม่ควรโดนความร้อนจัดๆหลังทำประมาณ 2 สัปดาห์ หลังทำเสร็จ คุณหมอจะแจ้งว่าควรดูแลตัวเองอย่างไร หลังจากทำ อัลเทอร่า ไปแล้ว
เครื่อง อัลเทอร่า กับ อัลเทอร่า SPT ต่างกันอย่างไร
อัลเทอร่าแบบเดิม
เครื่อง อัลเทอร่าแบบเดิม ใช้เทคโนโลยี High-Intensity Focused Ultrasound ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการความงามในการ ยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด คลื่นเสียงพลังงานสูงจะถูกส่งไปยังชั้นผิวหนังที่ลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ กระบวนการนี้ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้นและลดเลือนริ้วรอยได้โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน
อัลเทอร่า แบบเดิมเป็นเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูงในการกำหนดตำแหน่งและระดับความลึกของคลื่นเสียงที่ต้องการรักษา ทำให้สามารถยกกระชับผิวในบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีความปลอดภัยสูงและมีผลข้างเคียงน้อยมาก คนไข้สามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีหลังจากการรักษา
อัลเทอร่า SPT
อัลเทอร่า SPT (See, Plan, Treat) เป็นการปรับปรุงจาก อัลเทอร่า แบบเดิม โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเพิ่มฟีเจอร์ในการวิเคราะห์และการวางแผนการรักษาที่แม่นยำยิ่งขึ้น
- See (การดู): โดยเทคโนโลยีภาพอัลตราซาวด์ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อให้แพทย์สามารถเห็นโครงสร้างชั้นผิวและเนื้อเยื่อที่ต้องการรักษาได้อย่างชัดเจน การมองเห็นที่ดีกว่านี้ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินสภาพผิวและเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการส่งคลื่นเสียงได้อย่างแม่นยำ
- Plan (การวางแผน): ฟีเจอร์การวางแผนใน อัลเทอร่า SPT ช่วยให้แพทย์สามารถปรับแต่งการรักษาให้เหมาะสมกับความต้องการและสภาพผิวของผู้รับบริการแต่ละคนได้อย่างละเอียด ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การรักษามีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- Treat (การรักษา): มีการปรับปรุงเทคโนโลยีในการส่งคลื่นเสียงให้เจาะลึกและครอบคลุมมากขึ้น ทำให้สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวที่ลึกและกว้างขึ้น ส่งผลให้การยกกระชับผิวและการลดเลือนริ้วรอยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยสรุป อัลเทอร่า SPT เป็นการพัฒนาเทคโนโลยี อัลเทอร่า ที่มีอยู่เดิมให้มีความแม่นยำและประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นในการยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีเวลาพักฟื้นที่ยาวนาน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลังทำ อัลเทอร่า
อาการข้างเคียงที่อาจพบได้
- รอยแดง: อาจทำให้ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษามีรอยแดงเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นที่ผิวหนังและการตอบสนองของร่างกายต่อคลื่นเสียงที่ใช้ในการรักษา โดยรอยแดงนี้มักจะหายไปได้เองในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือ 1 วันหลังการรักษา
- บวม: หลังทำ อาจพบการบวมเล็กน้อยบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นและการทำงานของร่างกายในการซ่อมแซมผิว อาการบวมนี้จะค่อย ๆ ลดลงภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงถึงไม่กี่วัน
- รู้สึกเจ็บเล็กน้อย: บางคนอาจรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายในบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งอาการเจ็บนี้มักจะเป็นชั่วคราวและลดลงภายในเวลาไม่นาน
วิธีลดอาการข้างเคียง
- การใช้ครีมบำรุง: การใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารต้านการอักเสบหรือเย็นช่วยบรรเทาอาการแดงและบวมได้
- การประคบเย็น: การใช้ประคบเย็นในช่วงแรกหลังการทำ สามารถช่วยลดอาการบวมและรู้สึกไม่สบายได้
- การหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหนัก: ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้ระคายเคืองหลังการรักษา
- การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการดูแลผิวหลังทำ
โดยรวมแล้ว ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นอาการที่สามารถจัดการได้ง่ายและหายไปในระยะเวลาไม่นาน แต่หากอาการข้างเคียงยังคงอยู่หรือมีความรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
การเตรียมตัวก่อนทำ อัลเทอร่า
โดยทั่วไป ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมาก เพราะเป็นหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัด เพียงแค่นัดเข้าไปปรึกษาแพทย์ เมื่อแพทย์ซักประวัติ คุณควรบอกแพทย์อย่างละเอียด ว่าใช้ยาอะไรอยู่บ้าง เคยแพ้ยาตัวไหน เพื่อให้แพทย์ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและออกแบบการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
การดูแลตัวเองหลังทำ อัลเทอร่า
การดูแลผิว
- หลีกเลี่ยงแสงแดด: ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงในช่วงแรกหลังการทำ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังระคายเคืองหรือเกิดสีผิวไม่สม่ำเสมอ และควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเพื่อปกป้องผิว
- ใช้ครีมบำรุงผิว: ควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยนและไม่มีสารเคมีที่อาจทำให้ระคายเคือง เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้นและลดการเกิดอาการข้างเคียง
การลดการระคายเคือง
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิวที่อ่อนโยนและปราศจากส่วนผสมที่อาจทำให้ระคายเคือง เช่น สารกันเสียที่เป็นกรด หรือสารเคมีที่รุนแรง
- การประคบเย็น: การใช้ประคบเย็นในช่วงแรกหลังการทำ สามารถช่วยลดการบวมและอาการไม่สบายได้
อัลเทอร่า ไม่เหมาะกับใคร
เนื่องจากอัลเทอร่าเป็นหัตถการที่ใช้พลังงานที่มีความร้อนสูง ทำให้พลังงานนั้น อาจเข้าไปทำให้เกิดผลข้างเคียงกับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพบางอย่าง ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นได้ ดังนั้นผู้ที่มีเงื่อนไขเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการ
- หญิงตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีแผล เป็นสิว ผื่นผิวหนังอักเสบ ควรงดการทำหัตถการไปก่อนจนกว่าสุขภาพผิวจะกลับมาเป็นปกติ
- ผู้ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์โลหะ ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน , โรคหัวใจ , โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ เป็นต้น
Ulthera กับ Thermage ต่างกันอย่างไร
อัลเทอร่า และ Thermage เป็นเทคโนโลยียกกระชับเหมือนกัน ต่างกันที่เทคโนโลยี และผลลัพธ์
Ulthera
- เทคโนโลยีที่ใช้: ใช้คลื่นเสียง (High-Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งเป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงที่ถูกโฟกัสเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังลึก ๆ โดยเฉพาะที่ชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย
- ผลลัพธ์: มักให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและยาวนาน เนื่องจากคลื่นเสียง High-Intensity Focused Ultrasound สามารถเข้าถึงชั้นผิวที่ลึกกว่าและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่าในบางบริเวณ
Thermage:
- เทคโนโลยีที่ใช้: Thermage ใช้คลื่นวิทยุ (Radiofrequency) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง โดยคลื่นวิทยุจะสร้างความร้อนที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวกระชับขึ้น
- ผลลัพธ์: การรักษาด้วย Thermage มักมีผลดีในเรื่องการยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย แต่ผลลัพธ์อาจไม่แม่นยำเท่ากับ Ulthera และระยะเวลาในการเห็นผลอาจแตกต่างกันไป
การเปรียบเทียบผลลัพธ์:
- อัลเทอร่า: อาจให้ผลลัพธ์ที่เจาะจงและยาวนานกว่าในบางบริเวณ เนื่องจากสามารถเข้าถึงชั้นผิวที่ลึกกว่าและกระตุ้นคอลลาเจนได้มากขึ้น
- Thermage: อาจเหมาะสำหรับการยกกระชับผิวทั่วไปและการลดเลือนริ้วรอย แต่ผลลัพธ์อาจไม่เจาะจงและยาวนานเท่า Ulthera
Ulthera กับ HIFU ต่างกันอย่างไร
อัลเทอร่า
- เทคโนโลยีที่ใช้: เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียง (High-Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งได้รับการรับรองและมีการวิจัยรองรับ การรักษาด้วย อัลเทอร่า ใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่สูงและโฟกัสที่เฉพาะเจาะจงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวที่ลึก
- มาตรฐาน: อัลเทอร่า มีมาตรฐานและการวิจัยรองรับจากองค์กรต่าง ๆ เช่น FDA และแพทย์ที่เชี่ยวชาญ
HIFU:
- เทคโนโลยีที่ใช้: HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่ไม่มีมาตรฐานเดียวกันทุกแบรนด์และผลิตภัณฑ์ HIFU อาจมีการตั้งค่าหรือเทคนิคที่แตกต่างกัน
- มาตรฐาน: เทคโนโลยี HIFU อาจไม่มีการรับรองหรือมาตรฐานเดียวกันทุกแบรนด์ ดังนั้นผลลัพธ์และความปลอดภัยอาจแตกต่างกันไป
การเปรียบเทียบผลลัพธ์:
- อัลเทอร่า : อาจให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและคงทนกว่า เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีการรับรองและการวิจัยรองรับ
- HIFU: ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามแบรนด์และเทคนิคที่ใช้ เนื่องจากไม่มีมาตรฐานเดียวกัน
ทำ Ulthera ที่ไหนดี ?
อัลเทอร่า นำเข้าโดยบริษัท Merz แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้น คลินิกที่ใช้เครื่องจาก Merz ถือว่าเชื่อถือได้ทั้งสิ้น โดยสามารถค้นหาชื่อคลินิกที่ใช้เครื่องแท้ได้ที่ www.merzclubthailand.com แล้วใส่ชื่อคลินิกลงไป ถ้าเป็นคลินิกที่ใช้ของแท้ จะมีชื่อคลินิกอยู่
นอกจากจะดูว่าใช้เครื่องแท้หรือไม่ การจะพิจารณาว่าจะทำ อัลเทอร่า ยังต้องดูประสบการณ์ของแพทย์ด้วย แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถเลือกระดับพลังงาน และความลึกให้เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ทำให้การทำ Ulthera ได้ผลมากขึ้น ซึ่งตอนนี้มี รีวิว อัลเทอร่า จากผู้ใช้จริงมากมาย ลองหาดูจากรีวิว เพื่อประกอบการตัดสินใจได้อีกทางหนึ่ง https://www.youtube.com/watch?v=BIOcVduZvFM
นอกจากนั้น ยังสามารถดูได้จากมาตรฐานของคลินิก โดยดูได้จาก
- คลินิกที่มีชื่อเสียง: เลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงในด้านการทำ อัลเทอร่า ซึ่งมักจะมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูงในการทำการรักษาด้วยเทคโนโลยีนี้ คลินิกที่มีชื่อเสียงมักจะมีการรีวิวและความคิดเห็นที่ดีจากลูกค้าก่อนหน้า ซึ่งสามารถเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจ
- การรับรองจากแพทยสภา: ควรเลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยและคุณภาพการรักษา การรับรองจากหน่วยงานที่มีมาตรฐานจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ: ควรเลือกคลินิกที่มีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการทำ อัลเทอร่า ซึ่งจะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
อัลเทอร่า และแนวโน้มในอนาคต
อัลเทอร่า ยังคงมีการพัฒนาเทคโนโลยีและการใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในอนาคต เราอาจเห็นการปรับปรุงในด้านความแม่นยำและความสามารถในการยกกระชับผิวที่ดียิ่งขึ้น เมื่อถึงตอนนั้น ก็คงไม่มีอะไรสามารถหยุดความสวยของเราได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ulthera
- การทำ อัลเทอร่า เจ็บไหม? ส่วนใหญ่การทำ อัลเทอร่า ไม่ทำให้เจ็บ แต่ผู้รับบริการอาจรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยในระหว่างการทำ
- ผลลัพธ์ของ อัลเทอร่า อยู่ได้นานแค่ไหน? ผลลัพธ์ของ อัลเทอร่า สามารถคงอยู่ได้ยาวนานถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังการทำ
บทความนี้ได้ครอบคลุมถึงความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอัลเทอร่า ซึ่งเป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีที่ใช้ ผลลัพธ์ที่จะได้ รวมถึงการเปรียบเทียบกับโปรแกรมยกกระชับอื่นๆ อัลเทอร่าถือเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่อย่างไรก็ดี ก่อนตัดสินใจทำ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด