Morpheus 8 คืออะไร เทคโนโลยี รีเซ็ตผิว ลดริ้วรอย หลุมสิว และความหย่อนคล้อย
บทนำ: เทคโนโลยีความงาม ที่เปลี่ยนวิธีคิดเรื่องการดูแลผิว
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีความงาม หลายคนอาจสงสัยว่า Morpheus 8 คืออะไร และทำไมจึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในนวัตกรรม ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในแวดวงการแพทย์ผิวหนังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำตอบคือการผสานศาสตร์สองแขนงเข้าด้วยกันอย่างลงตัว คือ Microneedling และ คลื่นวิทยุ (RF) เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างผิวในทุกระดับ ทั้งยกกระชับ ลดริ้วรอย และแก้ไขปัญหาผิวไม่เรียบเนียน
ไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องความหย่อนคล้อย Morpheus 8 ยังได้รับการยอมรับ ว่าเป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึง “จุดอ่อนของผิว” ได้ลึก และกว้างกว่าที่เคย มีทั้งความสามารถในการลดเลือนหลุมสิว รอยแผลเป็น และรูขุมขนกว้าง ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายวิธีมักแก้ไขได้ไม่ตรงจุด นั่นทำให้ Morpheus 8 ไม่ได้เป็นเพียงการรักษาผิวเพื่อความงาม แต่ยังเป็นการฟื้นฟูคุณภาพผิวในเชิงลึก
Morpheus 8 คืออะไร
Morpheus 8 คือการรักษาที่ใช้เทคโนโลยี Microneedling ร่วมกับพลังงาน Radiofrequency (RF) เพื่อแก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อย ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง และหลุมสิว เทคโนโลยีนี้ ทำงานโดยการเจาะเข็ม เล็ก ๆ ลงไปในผิว พร้อมปล่อยพลังงานความร้อน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใหม่
การผสาน Microneedling และพลังงาน RF
การทำ Microneedling เพียงอย่างเดียว ช่วยสร้าง micro-injury หรือแผลเล็ก ๆ บนผิว กระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง และสร้างคอลลาเจนเพิ่ม ขณะที่พลังงาน RF เพียงอย่างเดียว ก็ช่วยยกกระชับผิวโดยการทำให้คอลลาเจนที่มีอยู่หดตัว
แต่เมื่อสองเทคโนโลยีนี้ถูกรวมเข้าด้วยกันใน Morpheus 8 ผลลัพธ์จึงทรงพลังยิ่งขึ้น เข็มเล็กสามารถนำพาพลังงาน RF ลงไปสู่ชั้นผิวในระดับที่แม่นยำ เกิดทั้งการกระชับทันที และการสร้างคอลลาเจนใหม่ ในระยะยาว
จุดกำเนิด และการพัฒนาโดย InMode (USA)
Morpheus 8 ถูกพัฒนาโดยบริษัท InMode จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์การแพทย์เพื่อความงาม InMode มีชื่อเสียงระดับโลก ในการพัฒนาเทคโนโลยี RF และเลเซอร์ที่ได้มาตรฐานสูง
Morpheus 8 ได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก US FDA ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความน่าเชื่อถือในระดับสากล ทำให้แพทย์ผิวหนังทั่วโลกมั่นใจว่า เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
หลักการทำงานของ Morpheus 8
การทำงานของ Morpheus 8 ไม่ได้ซับซ้อนจนเข้าใจยาก แต่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนหัตถการทั่วไป จุดเด่นคือการนำพลังงาน RF ลงไปในผิวผ่าน “เข็มเล็ก ๆ” ที่แม่นยำ และลึกกว่าที่หลายคนคิด ซึ่งเป็นการทำงานแบบสองชั้น — กระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง และเสริมด้วยความร้อน เพื่อกระชับโครงสร้างผิวจากภายใน
การสร้าง micro-injury จากเข็มเล็ก ๆ
หัวทิปของ Morpheus 8 ประกอบด้วยเข็มขนาดเล็กจำนวนมาก เมื่อเข็มเหล่านี้ลงไปในผิว จะสร้างรอยแผลเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “micro-injury” ซึ่งร่างกายจะรับรู้ว่าเป็นสัญญาณให้เริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเอง
แผลเล็ก ๆ นี้จะไปกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใหม่ คล้ายกับการที่ผิวเราเกิดรอยขีดข่วน แล้วร่างกายเร่งซ่อม แต่ Morpheus 8 ออกแบบให้เกิดการกระตุ้นแบบควบคุม จึงได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
การปล่อยพลังงาน RF และการกระตุ้นคอลลาเจน
ในเวลาเดียวกันกับที่เข็มเล็กสร้าง micro-injury พลังงาน RF จะถูกปล่อยลงไปยังชั้นผิว ความร้อนจากคลื่นวิทยุนี้ มีสองผลลัพธ์สำคัญ:
- คอลลาเจนที่มีอยู่หดตัวทันที → ทำให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้นหลังทำ
- ร่างกายถูกกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนใหม่ → ทำให้ผิวแน่น และเรียบเนียนขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 2–3 เดือนถัดมา
การทำงานนี้จึงไม่ใช่การแก้ปัญหาชั่วคราว แต่เป็นการปลุก ให้ผิวกลับมาทำงานเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง
Multi-layer Targeting – ปรับความลึก เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุด
อีกหนึ่งความพิเศษของ Morpheus 8 คือ สามารถปรับระดับความลึกของเข็มได้ตั้งแต่ 0.5–4 มม. ทำให้แพทย์สามารถเลือกได้ว่า จะรักษาผิวในชั้นตื้น เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ หรือจะลงลึกเพื่อแก้หลุมสิวและความหย่อนคล้อย
- ผิวตื้น → ความลึก 0.5–1 มม. เหมาะกับริ้วรอยเล็ก และรูขุมขนกว้าง
- ผิวกลาง → ความลึก 2–3 มม. สำหรับริ้วรอย ร่องแก้ม
- ผิวลึก → ความลึก 3–4 มม. ใช้กับหลุมสิวลึก และผิวหย่อนคล้อย
นี่คือเหตุผลที่ Morpheus 8 ได้รับความนิยม เพราะเป็นการรักษาที่ “ปรับแต่งได้” ให้เหมาะกับปัญหาเฉพาะ ของแต่ละคน

ปัญหาผิวที่ Morpheus 8 ช่วยได้อย่างลึกซึ้ง
Morpheus 8 ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือที่ช่วย “ยกกระชับ” เท่านั้น แต่คือการฟื้นฟูโครงสร้างผิวอย่างแท้จริง และสามารถปรับใช้กับหลายปัญหา ที่คนส่วนใหญ่มักเจอในชีวิตประจำวัน เรามาลองเจาะลึกไปทีละกรณีกันค่ะ
ร่องแก้ม ที่ทำให้ดูมีอายุ
ร่องแก้มลึก มักเป็นสัญญาณแรก ๆ ของวัยที่หลายคนกังวล เพราะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย และแก่กว่าที่เป็นจริง Morpheus 8 ใช้เข็มและ RF ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณร่องแก้ม ทำให้ผิวแน่นขึ้น ร่องดูตื้นลง ส่งผลให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
กรอบหน้า และคางสองชั้น
เมื่อผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าจะไม่ชัด และอาจมีคางสองชั้น Morpheus 8 ปรับความลึกของเข็ม เพื่อสลายไขมันตื้น ร่วมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้กรอบหน้าคมขึ้น และคางดูเล็กลง
ใต้ตา และริ้วรอยรอบดวงตา
ผิวรอบดวงตาบาง และบอบบาง ทำให้ริ้วรอยเล็ก ๆ แสดงออกง่าย Morpheus 8 มีหัวทิป ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับใต้ตา ปล่อยพลังงานได้พอดีโดยไม่ทำร้ายผิวส่วนนี้ ผลลัพธ์คือผิวใต้ตาเรียบเนียนขึ้น ถุงใต้ตาดูลดลง
หลุมสิวแต่ละประเภท
ปัญหาหลุมสิว ถือเป็นโจทย์ยากของคนจำนวนมาก Morpheus 8 ช่วยได้เกือบทุกชนิด
- Rolling Scar: หลุมสิวตื้น ผิวไม่เรียบ → RF + Microneedling กระตุ้นผิวฟื้นฟูได้ดี
- Boxcar Scar: หลุมสิวเป็นแอ่งกว้าง → การเจาะลึกช่วยกระตุ้นคอลลาเจนบริเวณรอบขอบแผล
- Icepick Scar: หลุมสิวแคบและลึก → ต้องทำหลายครั้ง แต่ Morpheus 8 ก็ช่วยให้ดูตื้นขึ้นได้
รอยแตกลาย
ไม่เพียงแค่ใบหน้า Morpheus 8 ยังถูกใช้กับผิวกาย โดยเฉพาะรอยแตกลายหลังคลอด หรือจากการเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก เข็มและ RF ช่วยให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ รอยแตกลายดูจางลง และผิวกลับมากระชับขึ้น
จุดเด่นของ Morpheus 8
สิ่งที่ทำให้ Morpheus 8 โดดเด่น ไม่ใช่เพียงการรวมเอา Microneedling และ RF เข้าไว้ด้วยกัน แต่คือความสามารถ ในการตอบโจทย์ปัญหาผิวหลายด้านในเวลาเดียวกัน และมอบผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและต่อเนื่อง
การรักษาหลายปัญหาในครั้งเดียว
แทนที่จะต้องเลือกว่าจะรักษาริ้วรอย หรือหลุมสิวก่อน Morpheus 8 สามารถทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกันได้ในครั้งเดียว เพราะการเจาะของเข็มช่วยฟื้นฟูพื้นผิว ในขณะที่พลังงาน RF ลงลึกเพื่อยกกระชับผิว นี่คือเหตุผลที่หลายคนเรียกมันว่า “การรีเซ็ตผิว”
ผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง และเป็นธรรมชาติ
จุดเด่นอีกอย่างของ Morpheus 8 คือผลลัพธ์ที่ค่อย ๆ ดีขึ้น ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทันตาแบบไม่เป็นธรรมชาติ หลังทำเพียงครั้งแรก ผิวจะรู้สึกกระชับขึ้นเล็กน้อย แต่ความมหัศจรรย์จะค่อย ๆ ปรากฏในช่วง 2–3 เดือน เมื่อคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้น
นี่ทำให้ผู้ที่เลือกทำรู้สึกมั่นใจว่า คนรอบข้างจะมองว่า “ดูดีขึ้น” แบบเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การเปลี่ยนโฉมแบบหักดิบ
Morpheus 8 ต่างจากเทคโนโลยีอื่นอย่างไร
Morpheus 8 vs Thermage
- Thermage: ใช้ RF เหมือนกัน แต่เป็นการปล่อยพลังงานผ่านหัวทิปโดยไม่ใช้เข็ม เหมาะกับการยกกระชับทั่วใบหน้า และลำตัว
- Morpheus 8: ใช้ RF ร่วมกับเข็มเล็ก จึงแก้ปัญหาผิว ที่มีหลุมสิวหรือ texture ไม่เรียบได้ดีกว่า
👉 อ่านเพิ่มเติม: Thermage คืออะไร
👉 อ่านเปรียบเทียบ: ยกกระชับแบบไหน ใช่ สำหรับคุณ
Morpheus 8 vs Ulthera
- Ulthera: ใช้อัลตราซาวด์ลงลึกถึงชั้น SMAS คล้ายการผ่าตัดดึงหน้า แต่ไม่มีผลกับผิวตื้นหรือหลุมสิว
- Morpheus 8: ทำงานที่ระดับชั้นหนังแท้และไขมันตื้น เน้นทั้งการกระชับและฟื้นฟูผิวพื้นผิว
👉 อ่านเพิ่มเติม: Ulthera คืออะไร
Morpheus 8 vs HIFU
- HIFU: ใช้อัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง เน้นการยกโครงสร้างลึก แต่ไม่ฟื้นฟูผิวในชั้นตื้นมากนัก
- Morpheus 8: มีจุดเด่นที่การฟื้นฟู texture ผิว และแก้ไขหลุมสิว ซึ่ง HIFU ไม่สามารถทำได้ชัดเจน
👉 อ่านเพิ่มเติม: HIFU คืออะไร
เปรียบเทียบเชิงลึก: Morpheus 8 vs Thermage vs Ulthera vs HIFU
การเลือกเทคโนโลยียกกระชับผิว ไม่ได้มีคำตอบตายตัว ทุกวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน ขึ้นกับสภาพผิว อายุ และความคาดหวังของแต่ละคน
Case-based Scenario
- วัย 30 ต้น ๆ: ผิวเริ่มมีความหย่อนเล็กน้อย รูขุมขนกว้าง → Morpheus 8 เหมาะเพราะช่วยทั้งยกกระชับ และฟื้นฟู texture ผิว
- วัย 40 กลาง ๆ: ร่องแก้มลึก กรอบหน้าไม่ชัด → Ulthera ตอบโจทย์ เพราะยิงได้ลึกถึง SMAS ยกโครงสร้างหน้า
- วัย 50 ขึ้นไป: ผิวหย่อนคล้อยมาก → Thermage เหมาะกับการยกทั่วใบหน้า และลำตัว อยู่ได้นาน
- งบประมาณจำกัด / อยากเห็นผลเบื้องต้น: HIFU คือทางเลือก เพราะเข้าถึงง่าย ราคาประหยัด แต่ผลลัพธ์อยู่สั้นกว่า
ตารางเปรียบเทียบ
เทคโนโลยี | หลักการ | จุดเด่น | ระยะเวลาผลลัพธ์ | เหมาะกับใคร |
---|---|---|---|---|
Morpheus 8 | Microneedling + RF | ยกกระชับ + หลุมสิว + รูขุมขน | 12–18 เดือน | คนมีทั้งผิวหย่อนและปัญหา texture |
Thermage | RF Monopolar | ยกทั่วหน้า–ตัว ผลลัพธ์อยู่ยาว | 1–2 ปี | ผู้ที่อายุ 40+ ผิวหย่อนคล้อยปานกลาง–มาก |
Ulthera | Focused Ultrasound | ยกชั้นลึก (SMAS) แม่นยำสูง | 1 ปี+ | ผู้ที่โครงสร้างใบหน้าหย่อนคล้อย |
HIFU | Ultrasound | ราคาประหยัด เห็นผลเบื้องต้น | 6–8 เดือน | ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นยกกระชับ |
👉 อยากรู้ลึก ว่าเทคโนโลยีแบบไหน เหมาะกับคุณ อ่าน: Thermage คืออะไร | Ulthera คืออะไร | HIFU คืออะไร
พื้นที่ที่สามารถทำ Morpheus 8 ได้
ความยืดหยุ่นของการปรับความลึก ทำให้ Morpheus 8 สามารถรักษาได้หลายบริเวณ ไม่ได้จำกัดเพียงใบหน้าเท่านั้น
- ใบหน้า: แก้ม ร่องแก้ม หน้าผาก กรอบหน้า
- รอบดวงตา: ริ้วรอยใต้ตา หนังตาที่เริ่มตก
- ลำคอ: ความหย่อนคล้อยที่ทำให้ดูแก่กว่าวัย
- ลำตัว: หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา ผิวที่ไม่กระชับ
บางกรณี Morpheus 8 ยังถูกนำมาใช้ร่วมกับการดูแลผิวกาย เช่น รอยแตกลายหลังคลอด ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
รีวิวจำลอง
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองตามไปดู “เรื่องเล่า” ของผู้ที่ตัดสินใจทำ Morpheus 8 กันค่ะ
Working Woman วัย 35 ปี
แอนเป็นสาวออฟฟิศที่ทำงานหนัก และมักนอนดึก เมื่ออายุเข้าเลขสามกลาง ๆ เธอสังเกตว่าร่องแก้มเริ่มชัด และผิวไม่สดใสเหมือนเดิม การแต่งหน้าก็ไม่เรียบเนียนเหมือนก่อน หลังปรึกษาแพทย์ เธอเลือกทำ Morpheus 8 ที่แก้ม และร่องแก้ม
“หลังทำครั้งแรก ผิวดูฟูขึ้น ร่องแก้มไม่ลึกเท่าเดิม ผ่านไป 2 เดือนเพื่อนทักว่าหน้าเด็กลง ทั้งที่ไม่ได้เปลี่ยนวิธีแต่งหน้าเลยค่ะ”
คุณแม่หลังคลอด
นิดาเพิ่งคลอดลูกได้ 1 ปี แต่กังวลกับผิวหน้าท้องที่มีรอยแตกลาย และไม่กระชับเหมือนเดิม เธอลองทำ Morpheus 8 ที่หน้าท้อง
“ช่วงแรกมีรอยแดงบ้าง แต่หายเร็วค่ะ ประมาณ 3 เดือนต่อมา รอยแตกลายดูจางลงจริง ๆ เวลาสวมเสื้อผ้ารู้สึกมั่นใจขึ้นมากค่ะ”
ผู้ชายวัย 40 ที่อยากฟื้นความมั่นใจ
ต้นเป็นผู้ชายวัยทำงานที่มีปัญหาหน้ามัน และรูขุมขนกว้าง กรอบหน้าเริ่มไม่ชัด เมื่อได้ลองทำ Morpheus 8
“ผิวหน้าแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รูขุมขนเล็กลง เวลาเข้าประชุมออนไลน์ไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์เยอะเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ”
จากกรณีเหล่านี้จะเห็นว่า Morpheus 8 ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้หญิง หรือเฉพาะคนที่อายุมากขึ้นเท่านั้น แต่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวเฉพาะตัว ตั้งแต่ริ้วรอยเล็ก ๆ ไปจนถึงหลุมสิว และรอยแตกลาย

ข้อดี และข้อจำกัดของ Morpheus 8
แม้ Morpheus 8 จะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง แต่เพื่อความเข้าใจที่ครบถ้วน เรามาดูกันอย่างเป็นธรรมว่า ข้อดีและข้อจำกัด ของการรักษานี้มีอะไรบ้าง
ข้อดี
- ครอบคลุมหลายปัญหา: ทั้งยกกระชับผิว หลุมสิว ริ้วรอย และรูขุมขนกว้าง
- เห็นผลทั้งทันที และต่อเนื่อง: หลังทำจะรู้สึกถึงความกระชับทันที และผิวจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ใน 2–3 เดือนถัดมา
- ปรับความลึกได้: เหมาะกับปัญหาผิวที่ต่างกัน เช่น ริ้วรอยตื้น หรือหลุมสิวลึก
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ: กระตุ้นคอลลาเจนให้ร่างกายสร้างเอง ไม่ใช่การใส่สารแปลกปลอม
- ความปลอดภัยสูง: ได้รับการรับรองจาก US FDA
ข้อจำกัด
- อาจต้องทำมากกว่า 1 ครั้ง: โดยเฉพาะในผู้ที่มีหลุมสิวลึก หรือผิวหย่อนคล้อยมาก
- Downtime เล็กน้อย: หลังทำอาจมีรอยแดง หรือรอยเข็มประมาณ 1–3 วัน
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร: แม้จะอยู่ได้นาน 12–18 เดือน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผิวก็ยังเปลี่ยนแปลงตามวัย จึงควรทำซ้ำ
ความปลอดภัย และการรับรอง
สิ่งสำคัญที่ทำให้ Morpheus 8 ได้รับความนิยมคือ มาตรฐานความปลอดภัย เทคโนโลยีนี้พัฒนาโดย InMode (USA) ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องมือแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านพลังงาน RF และเลเซอร์
- ได้รับการรับรองจาก US FDA ว่าสามารถใช้เพื่อการยกกระชับผิว และฟื้นฟูสภาพผิว ได้อย่างปลอดภัย
- มีงานวิจัยใน PubMed ที่ยืนยันว่า RF Microneedling สามารถกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ และช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว ได้อย่างมีนัยสำคัญ
- สมาคมแพทย์ผิวหนังสหรัฐฯ (ASDS) ระบุว่า RF Microneedling เป็นหนึ่งในเทคโนโลยี ที่มีประสิทธิภาพสูง และมีผลข้างเคียงน้อย
ขั้นตอนการทำ Morpheus 8
การทำ Morpheus 8 ไม่ซับซ้อน แต่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย และแม่นยำ
- การประเมิน: แพทย์จะตรวจสภาพผิว วิเคราะห์ปัญหา และกำหนดความลึกที่เหมาะสม
- การเตรียมผิว: ทำความสะอาด และทายาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ
- การรักษา: ใช้หัวเข็มปล่อยพลังงาน RF ลงไปตามระดับที่กำหนด ใช้เวลาประมาณ 30–60 นาที
- การฟื้นฟู: หลังทำอาจมีรอยแดง หรือรอยเข็มเล็กน้อย ซึ่งจะจางลงเองใน 1–3 วัน
การดูแลหลังทำ Morpheus 8
แม้การทำ Morpheus 8 จะไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่การดูแลหลังทำ ก็มีความสำคัญ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
- เลี่ยงแดด: อย่างน้อย 3–5 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด
- ใช้กันแดด: ทาครีมกันแดด SPF 50+++ ทุกวัน
- ดูแลผิวอ่อนโยน: ใช้สกินแคร์ที่เน้นความชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงกรดผลไม้หรือ Retinol ชั่วคราว
- พักผ่อนเพียงพอ: ดื่มน้ำมาก ๆ และนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
📌 แนวทางนี้ตรงกับคำแนะนำของ ASDS ซึ่งยืนยันว่าการดูแลหลังทำช่วยลดผลข้างเคียงและเร่งการฟื้นตัวของผิว
ผลลัพธ์ที่คาดหวังจาก Morpheus 8
การทำ Morpheus 8 ไม่ได้เป็นเพียงการปรับผิวชั่วคราว แต่เป็นกระบวนการฟื้นฟูที่ค่อย ๆ แสดงผลอย่างเป็นธรรมชาติ
- ทันทีหลังทำ: ผิวรู้สึกกระชับขึ้นเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงความแน่น
- 2–3 สัปดาห์: รอยสิว ริ้วรอย และรูขุมขนเริ่มเล็กลง
- 2–3 เดือน: คอลลาเจนใหม่ถูกสร้างเต็มที่ ผิวดูเรียบเนียน อิ่มฟู ริ้วรอยเล็ก ๆ จางลงชัดเจน
- 12–18 เดือน: ผลลัพธ์อยู่ต่อเนื่อง ขึ้นกับสภาพผิว และการดูแล
📌 จุดสำคัญคือ Morpheus 8 ไม่ใช่การแก้ไขที่หายวับทันที แต่เป็นการ “ปลุกผิว ให้ซ่อมแซมตัวเอง” ซึ่งยิ่งเวลาผ่านไป ผิวก็ยิ่งดีขึ้น
การดูแลผิวเสริม หลังทำ Morpheus 8
การดูแลหลังทำเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน และสวยที่สุด
โภชนาการที่ช่วยฟื้นฟู
- โปรตีน: จากปลา ไก่ ไข่ ถั่ว → วัตถุดิบหลักของคอลลาเจน
- วิตามิน C: ส้ม เบอร์รี่ ฝรั่ง → กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- Zinc: เมล็ดฟักทอง ถั่วแดง → ช่วยซ่อมแซมผิว
สกินแคร์ที่ควรใช้
- Hyaluronic Acid: เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวฟื้นตัวเร็ว
- Ceramide: เสริมเกราะป้องกันผิว
- Peptide: กระตุ้นคอลลาเจน
สกินแคร์ที่ควรเลี่ยง (ชั่วคราว 1–2 สัปดาห์)
- Retinol
- AHA/BHA
- เลเซอร์แรง ๆ
ไลฟ์สไตล์
- ดื่มน้ำวันละ 1.5–2 ลิตร
- นอนหลับเพียงพอ
- ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ → ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
FAQ: คำถามที่พบบ่อย
A: มีการทายาชาก่อนทำ ทำให้เจ็บเพียงเล็กน้อย รู้สึกอุ่น ๆ หรือจี๊ด ๆ เท่านั้น
A: ส่วนใหญ่ทำเพียง 1–3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและคำแนะนำของแพทย์
A: เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป หรือเมื่อเริ่มเห็นสัญญาณผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และปัญหาหลุมสิว
A: ผลลัพธ์อยู่ได้ 12–18 เดือน ขึ้นกับการดูแลผิวและไลฟ์สไตล์
A: ได้ ควรทำ Morpheus 8 ก่อน แล้วจึงทำ Filler หรือ Botox เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ
A: ส่วนใหญ่พักฟื้นเพียง 1–3 วัน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
A: ใช่ เพราะเข็ม + RF กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น
A: ไม่เหมาะกับผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ, หญิงตั้งครรภ์ หรือมีการติดเชื้อบริเวณที่จะทำ
A: ได้ Morpheus 8 มีหัวทิปที่ออกแบบเฉพาะ สำหรับผิวรอบดวงตา
A: ทำได้ เพราะ RF ไม่กระทบเม็ดสีผิว จึงปลอดภัยกับทุกสีผิว
A: ได้ แต่ควรเว้นอย่างน้อย 2–4 สัปดาห์ ขึ้นกับชนิดเลเซอร์
A: ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก 24 ชั่วโมงแรก
A: ไม่ควรทำในช่วงที่มีสิวอักเสบรุนแรง ควรรักษาสิวให้สงบก่อน
A: ทำได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
A: ส่วนใหญ่ทำ 1–3 ครั้งต่อปี ขึ้นกับสภาพผิว
A: ประมาณ 30–60 นาที ขึ้นกับพื้นที่
A: ควรรอ 24 ชั่วโมงเพื่อให้ผิวฟื้นตัวก่อน
A: เห็นผลบางส่วนทันที แต่ชัดเจนที่สุดใน 2–3 เดือน
A: ได้ ปลอดภัยสำหรับทุกโทนสีผิว
ราคาและโปรโมชั่น
ค่าใช้จ่ายในการทำ Morpheus 8 ขึ้นกับพื้นที่ที่ทำและจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำ โดยทั่วไปอยู่ที่ 30,000 – 60,000 บาท/ ครั้ง ซึ่งเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน 12–18 เดือน ถือว่าคุ้มค่า
สรุป Morpheus 8 คืออะไร
Morpheus 8 ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยียกกระชับผิว แต่คือการ “รีเซ็ตผิว” ให้กลับมาสดใส แข็งแรง และอ่อนเยาว์จากภายใน ด้วยการผสมผสาน Microneedling + RF ที่ช่วยทั้งยกกระชับ แก้ปัญหาหลุมสิว ริ้วรอย และรูขุมขนในครั้งเดียว
ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ แต่ยังคืนความมั่นใจให้กับผู้ที่เลือกทำ เหมาะกับคนที่ต้องการวิธีแก้ปัญหาผิวที่ปลอดภัย เห็นผลจริง และไม่ต้องผ่าตัด
ถ้าคุณอยากรู้ว่า Morpheus 8 เหมาะกับสภาพผิวของคุณหรือไม่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ La Grace Clinic พร้อมให้คำปรึกษา และออกแบบการรักษาเฉพาะสำหรับคุณ