เมโสหน้าใสคืออะไร? ฉีดเมโสหน้าใส มีอันตรายไหม ? ดียังไง ทำไมใครๆก็อยากทำ?
เมโส หรือ เมโสหน้าใส เป็นประเภทหนึ่งของ Mesotherapy ซึ่งเป็นเทคนิคการฉีดเพื่อส่งตัวยา หรือสารอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน และสารอาหารเข้มข้นเข้าสู่ผิว ไม่ว่าจะเป็น กรดอมิโน แร่ธาตุ หรือฮอร์โมนต่างๆ โดยใช้เข็มฉีดขนาดเล็ก ประมาณ 27-30 G (เล็กกว่าก้านดอกเข็ม) เข้าไปยังตำแหน่งต่างของผิวโดยตรง เพื่อฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวนุ่ม อิ่มฟู ชุ่มชื่น ดูกระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยลดการอักเสบของผิว ช่วยขับสารพิษ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยจากวัย เป็นการแก้ปัญหาผิวที่ตรงจุด และมีประสิทธิภาพ
คำว่า “Mesotherapy” หมายถึงอะไร?
Mesotherapy ประกอบไปด้วยคำ 2 คำคือ Meso ที่ย่อมาจากคำว่า Mesoderm หมายถึงผิวหนังชั้นกลาง กับคำว่า Therapy หมายถึงการบำบัดรักษา ดังนั้น คำว่า Mesotherapy จึงหมายความว่า การบำบัดรักษาในผิวชั้นกลาง เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ต่างๆทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมการฉีดตัวยาเข้าผิวชั้นกลางจึงได้ผลดีและรวดเร็ว?
ผิวชั้นกลาง (Dermis) เป็นชั้นผิวหนังแท้ ในผิวชั้นนี้จะประกอบไปด้วยคอลลาเจน อิลาสติน ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่เสริมความแข็งแรงให้ผิว และ กรด Hyaluronic ที่ช่วยคงความอ่อนเยาว์ให้ผิว
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตทั้งคอลลาเจน อิลาสตินน้อยลง ที่มีอยู่ก็เสื่อมสภาพไปตามวัยและพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนั้นการฉีด เมโสหน้าใส เข้าไปตรงจุดนี้ จึงเป็นการบำรุงโครงสร้างผิวที่เห็นผลดี และรวดเร็วกว่าการทาครีม ช่วยให้ผิวกลับมาขาวใส แข็งแรง และยืดหยุ่น
Meso หน้าใส ช่วยเรื่องใดได้บ้าง?
เมโสหน้าใส ประกอบไปด้วยตัวยาหลายชนิดที่ช่วยในเรื่องต่างๆกัน เช่น
- ช่วยฟื้นฟูผิวจากสารพิษ เช่นผื่นจากการแพ้
- ช่วยลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ที่เป็นสาเหตุของฝ้า ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
- ช่วยให้ผิวสุขภาพดี ชุ่มชื่น แข็งแรง
- แก้ปัญหารอยดำจาก ฝ้า กระ รูขุมขนกว้าง
- เสริมสร้างการทำงานของคอลลาเจน ให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่นขึ้น
ดังนั้น ก่อนจะฉีดเมโสหน้าใส ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์ปัญหาผิว และแนะนำตัวยาที่จะฉีดให้ จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
เมโสหน้าใสอันตรายไหม?
ตัวยาของเมโสหน้าใส เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และ วิตามินต่างๆ ที่ช่วยบำรุง และเสริมภูมิคุ้มกันให้ผิว
การฉีดเมโสให้ปลอดภัย 100% ต้องฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพราะคลินิกที่ได้มาตรฐานจะใช้ตัวยาที่ผ่านการรับรองจาก อย.
ที่สำคัญอย่าซื้อยามาฉีดเอง หรือเอาไปให้แพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ฉีด การซื้อยาที่ขายอยู่ทั่วไปเอง เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าตัวยาเป็นของแท้หรือไม่ ยิ่งถ้าขายถูกๆยิ่งต้องระวัง เพราะตัวยาเหล่านี้มีราคามาตรฐานอยู่ ถ้าถูกเกินไป ระวังจะได้ของปลอมซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายแน่นอน ใช้แล้วอาจมีการแพ้ เป็นผื่น หรือเกิดการอักเสบได้
เมโสหน้าไส ฉีดยังไง?
ก่อนการเข้ารักษาด้วยเมโสหน้าใส จะต้องพบแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์ปัญหาผิว และแนะนำตัวยาที่เหมาะกับปัญหา เมื่อปรึกษาแพทย์เสร็จจึงจะเข้าขั้นตอนการฉีด
- คลีนหน้า เพื่อทำความสะอาดผิว
- ทายาชาให้ทั่วบริเวณที่จะฉีด ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที
- แพทย์จะลงเข็มทั่วหน้า โดยเข็มที่ใช้จะมีขนาดความลึกต่างกัน 0.25 , 0.5 , 0.75 , 1.2 มิลลิเมตร) ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ในขณะฉีด อาจมีการประคบเย็นเพื่อช่วยลดความเจ็บ
เทคนิคการฉีดเมโสสะกิด
เทคนิคการฉีดแบบสะกิด เป็นเทคนิคที่ใช้กันมาแต่ดั้งเดิม เป็นการใช้เข็มฉีดตัวยากระจายเป็นจุดเล็กๆในผิวชั้นตื้น ทั่วทั้งหน้า ซึ่งมีข้อดีคือเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนไปด้วยในระหว่างฉีด แต่ข้อเสียคือ อาจเกิดรอยช้ำ รอยแดง และถ้าระหว่างการฉีด ไม่รักษาความสะอาดพอจะเกิดการติดเชื้อได้ ซึ่งมักจะเกิดกับคนที่ซื้อยามาฉีดเอง หรือฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์
เทคนิคการฉีดเมโสแบบ 16 จุด
เทคนิคการฉีดแบบ 16 จุด ถูกค้นพบขึ้นในประเทศอิตาลี เป็นการฉีดตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง ซึ่งมีข้อดีคือ เป็นแผลน้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า มีรอยช้ำน้อยกว่า เป็นการค่อยๆปล่อยตัวยาให้กระจายไปตามทิศทางน้ำเหลือง ทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้นานกว่า
เมโสหน้าใสอยู่ได้นานแค่ไหน?
ในการฉีด 1ครั้ง จะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน ควรฉีดสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ ที่สำคัญคือ เมื่อฉีดไปแล้ว ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำร้ายผิว เช่น การตากแดดจัดบ่อยๆ พักผ่อนน้อย สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะทำให้อยู่ได้นานขึ้น
ฉีดเมโสหน้าใส เจ็บไหม?
ปกติการฉีดเมโสหน้าใส จะมีการทายาชา ดังนั้นคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ หรือถ้ามีความรู้สึก ก็จะไม่มาก อยู่ในระดับที่ทนได้
เมโสหน้าใส รักษาฝ้า?
อย่างที่ได้บอกไปตั้งแต่ต้นว่า Mesotherapy เป็นเทคนิคการฉีดสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต่างๆในการดูแลผิวที่มีปัญหาต่างๆกันไป ฝ้าก็เป็นหนึ่งในปัญหาผิว ที่มีตัวยาที่สามารถฉีดเข้าไป เพื่อช่วยลดสีเมลานินได้ เป็นการชะลอการกระจายของฝ้าช่วยทำให้ฝ้าดูจางลง แต่การเกิดฝ้าเป็นกลไกการป้องกันผิวตามธรรมชาติของร่างกายจากการที่ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินความจำเป็น ทำให้เกิดรอยปื้นสีน้ำตาลบนผิว จึงยังไม่มีวิธีหรือตัวยาใดๆที่จะรักษาให้หาย 100% มีแต่เพียงชะลอไม่ให้เกิดมากขึ้น และทำให้ดูจางลงเท่านั้น
การฉีดเมโสหน้าใส เพื่อชะลอฝ้า ควรฉีดอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง การฉีดเพียงครั้งเดียวไม่เพียงพอที่จะเห็นผลชัดเจน โดยแพทย์จะแนะนำให้ฉีดอย่างน้อย 5 ครั้งเพื่อให้ฝ้าลดลงได้เร็วขึ้น โดยปกติจะค่อยๆเห็นผลภายใน 7-14 วัน
เมโสหน้าใส มีผลข้างเคียงไหม ?
การฉีดเมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง เพราะตัวยาที่ฉีดเข้าไปเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่นพวกวิตามินบำรุงผิว ซึ่งผ่านการรับรองจาก อย. เรียบร้อยแล้ว
หลังฉีดทันทีใบหน้าจะเป็นรอยเข็ม และมีตุ่มนูนๆ อยู่บนบริเวณที่ฉีด ซึ่งรอยเข็มจะหายไปเองภายใน 1-3 วัน และตุ่มนูนจะหายไปทันทีที่ตัวยาซึมเข้าไป
ใครที่เหมาะกับการฉีด เมโสหน้าใส
คนที่ไม่อยากทาครีม และอยากหาวิธีให้ตัวยาซึมเข้าผิวแบบล้ำลึกและรวดเร็วกว่าการทาครีม
คนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง อดนอน และทำงานหนัก
ฉีดเมโสหน้าใสราคา เท่าไหร่ / เมโสหน้าใสที่ไหนดี?
การฉีดเมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัยก็จริง แต่ต้องเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี เพราะการสะกิดฉีดเมโสหน้าใส เป็นเทคนิคที่ต้องการความชำนาญเพื่อผลักตัวยาลงไปในชั้นผิวที่ถูกต้อง แม่นยำ และควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานที่ใช้ตัวยาแท้ที่ผ่าน อย. เท่านั้น
ตัวยาเมโส มีให้เลือกหลายชนิด ตามปัญหาของคนไข้ ราคาก็จะต่างกันออกไป ควรเช็คกับคลินิก และปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย และแนะนำตัวยาให้
สนใจฉีดเมโสหน้าใส สามารถนัดปรึกษาแพทย์ก่อน ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ที่ โทร 087-494-4000 หรือแอดไลน์ @lagraceclinic