ฟิลเลอร์ปลอม

Table of Contents

ฟิลเลอร์ปลอม เรื่องใหญ่ของปัญหาความงามที่ทุกคนควรรู้ก่อนฉีด

ในยุคที่การเสริมความงามเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกัน การใช้ฟิลเลอร์เพื่อเสริมความงามกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะ ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มปัญหาผิวได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็มร่องลึก ลดเลือนริ้วรอย หรือเสริมสร้างโครงหน้าให้มีมิติมากขึ้น แต่ความเสี่ยงจากการใช้ ฟิลเลอร์ปลอม ยังคงเป็นปัญหาที่ร้ายแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงและอันตรายต่อสุขภาพได้  

 ฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร

ฟิลเลอร์ปลอมเป็นสารที่ไม่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการแพทย์ มีส่วนประกอบที่ไม่ปลอดภัยเมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ไม่สลายไปตามธรรมชาติ ทิ้งสารตกค้างไว้ หรือไหลเป็นก้อน และอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ อักเสบ หรือติดเชื้อ ฟิลเลอร์ที่ปลอมแปลงมักมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย แต่ไม่ได้มาตรฐาน มีทั้งที่เป็นแบบซิลิโคนเหลว หรือเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่บริสุทธิ์

การจะรู้เท่าทัน ฟิลเลอร์ปลอม จึงควรรู้จักประเภทของฟิลเลอร์กันก่อน ว่าฟิลเลอร์มีกี่ประเภท พร้อมทั้งข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภท

ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท

โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ (Filler) มี 3 ประเภท ได้แก่

Temporary Filler (ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว)

คือ ฟิลเลอร์ที่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน สารเติมเต็มที่ใช้ในฟิลเลอร์ประเภทนี้คือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่เลียนแบบกรด Hyaluronic ในร่างกายมนุษย์ อยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน หลังจากนั้นก็จะสลายไปตามกระบวนการของร่างกาย  เมื่อฟิลเลอร์สลายตัวก็สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ

Semi Permanent Filler (ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร)

คือ ฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้หมด 100% ฟิลเลอร์ประเภทนี้จะมีความปลอดภัยน้อยกว่าฟิลเลอร์แบบชั่วคราว สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2-5 ปี สารที่ใช้จะมีส่วนผสมของ สารแคลเซียม, ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite), สาร PLLA (Poly-L-lactic acid) และ สาร Polyalkylimide 

Permanent Filler (ฟิลเลอร์แบบถาวร)

ปัจจุบันนี้ มีการนำสารสังเคราะห์ เช่น ซิลิโคนเหลว, พาราฟิน หรือ Polymer สังเคราะห์ ซึ่งเมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วจะไม่สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ และไม่สามารถฉีดสลายด้วยสารไฮยาลูโรนิเดส (Hyarulonidase) ที่ใช้สำหรับการฉีดสลายฟิลเลอร์แท้ 

ฟิลเลอร์ปลอม เป็นฟิลเลอร์ที่มักจะเคลมกันว่าเป็นฟิลเลอร์ถาวร (Permanent Filler) ฉีดครั้งเดียวแล้วอยู่ได้ยาวนาน แต่อันที่จริงแล้วเป็นฟิลเลอร์ที่อันตรายที่สุด เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นฟิลเลอร์แบบถาวร ซึ่งหมายความว่า มันไม่มีวันสลายออกไปจากร่างกายได้เองตามธรรมชาติ เมื่อไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ก็จะก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา เช่น แข็งเป็นไต เป็นก้อนแข็งอยู่ภายในร่างกาย รวมถึงไหลไปยังบริเวณข้างเคียงทำให้หน้าเบี้ยว ฟิลเลอร์ไหล ย้อยผิดรูป ทำให้เป็นพังผืด และอาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อได้

ฟิลเลอร์

สารที่ใช้ในฟิลเลอร์

สารที่ใช้ใน ฟิลเลอร์มีหลายชนิด ที่สามารถเลือกใช้ เพื่อแก้ไขปัญหาผิวที่ต่างกัน เช่น

Hyaluronic Acid (HA) Fillers

ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นฟิลเลอร์แบบชั่วคราว เพราะใช้สารที่มีอยู่ในธรรมชาติของร่างกาย มีคุณสมบัติในการดึงน้ำ ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นและเติมเต็มร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ และจะสลายไปตามธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน

ข้อดี:

  • สามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ
  • มีความปลอดภัยสูง
  • ผลข้างเคียงน้อย

ข้อเสีย:

  • ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน

Calcium Hydroxylapatite (CaHA) Fillers

สารประกอบทางแคลเซียมที่พบในกระดูก ฟิลเลอร์ชนิดนี้มักใช้ในการเติมเต็มร่องลึกและเสริมสร้างโครงหน้า สารเติมเต็ม Calcium Hydroxyapatite หรือ สารแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร คือสามารถสลายได้บางส่วน แต่ก็ยังมีส่วนที่ยังตกค้างอยู่ในผิว เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็ง ไม่เหมาะกับการนำมาฉีดบริเวณใบหน้า มักนำมาใช้ในการเติมหน้าอกและสะโพก

ข้อดี:

  • ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน

ข้อเสีย:

  • อาจทำให้เกิดการก่อตัวของก้อนในบางกรณี

Poly-L-Lactic Acid (PLLA) Fillers

สารเติมเต็ม Poly-L-lactic Acid หรือ PLLA เป็นสารเติมเต็มที่อยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ แต่ไม่สามารถย่อยได้หมด 100% เป็นสารที่ได้รับการขนานนามว่า เป็น ตัวกระตุ้นคอลลาเจนธรรมชาติ จึงมักนำมาใช้ในการเสริมสร้างโครงหน้าและแก้ไขปัญหาร่องลึก

สารเติมเต็ม PLLA อยู่ได้นาน 2-5 ปี เป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มักใช้กันมากในการผลิตอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ เช่น เป็นวัตถุดิบของการทำไหมละลาย 

ข้อดี:

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ โดยเป็นคอลลาเจนที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี

ข้อเสีย:

  • ต้องทำการรักษาหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

Polymethylmethacrylate (PMMA) Fillers

สารเติมเต็มโพลีเมธิลเมธาไครเลต (PMMA) หรือ พลาสติกสังเคราะห์ เป็นฟิลเลอร์แบบถาวร ไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ ฟิลเลอร์ชนิดนี้เป็นสารสังเคราะห์ที่มีการเติมอนุภาคขนาดเล็กในเจลคอลลาเจน ใช้ในการเติมเต็มร่องลึกและเสริมสร้างโครงหน้า มีลักษณะเป็นเม็ดกลมเรียบ ขนาดเล็กมาก สารชนิดนี้สามารถใช้เป็นวัสดุสำหรับผลิตเครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เลนส์แก้วตาเทียม เป็นต้น

ข้อดี:

  • ผลลัพธ์ที่ยาวนานและคงทน

ข้อเสีย:

  • การฉีด PMMA ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากมีความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหากฉีดไม่ถูกวิธี

Autologous Fat Injections (Fat Grafting)

Fat Grafting คือการใช้ไขมันจากร่างกายของผู้รับการรักษาเอง ฉีดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม

ข้อดี:

  • ไม่มีความเสี่ยงในการแพ้เนื่องจากใช้ไขมันของตัวเอง
  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

ข้อเสีย:

  • ต้องทำการผ่าตัดดูดไขมันก่อน
  • ผลลัพธ์อาจไม่ถาวรเนื่องจากไขมันอาจถูกดูดซึมกลับโดยร่างกาย        

ในปัจจุบันนี้ มีการนำสารสังเคราะห์ เช่น ซิลิโคนเหลว, พาราฟิน หรือ Polymer สังเคราะห์ ซึ่งเมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วจะไม่สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ และไม่สามารถฉีดสลายด้วยสารไฮยาลูโรนิเดส (Hyarulonidase) ที่ใช้สำหรับการฉีดสลายฟิลเลอร์แท้ 

ฟิลเลอร์ปลอม เป็นฟิลเลอร์ที่มักจะเคลมกันว่าเป็นฟิลเลอร์ถาวร (Permanent Filler) ฉีดครั้งเดียวแล้วอยู่ได้ยาวนาน แต่อันที่จริงแล้วเป็นฟิลเลอร์ที่อันตรายที่สุด เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นฟิลเลอร์แบบถาวร ซึ่งหมายความว่า มันไม่มีวันสลายออกไปจากร่างกายได้เองตามธรรมชาติ เมื่อไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ มันก็จะก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา เช่น แข็งเป็นไต เป็นก้อนแข็งอยู่ภายในร่างกาย รวมถึงไหลไปยังบริเวณข้างเคียงทำให้หน้าเบี้ยว และอาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อได้

สารที่ใช้ใน ฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงจากการฉีด ฟิลเลอร์ปลอม

  • ติดเชื้อ อักเสบ บวมแดง เป็นหนอง
  • ฟิลเลอร์ไหล ไปในบริเวณข้างเคียง
  • จับตัวเป็นก้อนแข็ง ทำให้ใบหน้าเสียทรง ผิดรูปได้

วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้หรือปลอม

การรู้จักกับฟิลเลอร์ปลอมและสังเกตสัญญาณเตือนเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงมาทำความรู้จักกับวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยกัน

ราคา

สิ่งที่ดูง่ายที่สุดคือ ราคา เพราะถ้าหากราคาถูกเกินไป ให้สันนิษฐานไว้ด่อนได้เลยว่า อาจเป็น ฟิลเลอร์ปลอม ดังนั้น อย่าเห็นแก่ของถูก เพราะเสี่ยงกับการเจอฟิลเลอร์ปลอม แล้ว อาจจะก่อให้เกิดปัญหาที่บานปลายตามมาทีหลังได้

ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์และแบรนด์

แบรนด์ที่ได้รับการรับรองจะมีบรรจุภัณฑ์ที่ชัดเจนและมีหมายเลข Lot ผลิตที่สามารถตรวจสอบได้ โดยฟิลเลอร์แต่ละกล่อง จะมีเลข Lot. ระบุไว้อยู่บนกล่อง บนหลอดฟิลเลอร์, บนสติกเกอร์ และบนซอง ทุกบริเวณจะต้องมีเลข Lot. ที่ตรงกัน บางยี่ห้อ จะมี qr quote  เพื่อให้สแกนดูว่าเป็นของแท้จากผู้ผลิตได้ด้วย แต่หากไม่มี qr quote ให้สแกน ก็สามารถโทรเช็กเลข Lot. กับบริษัทผู้จัดจำหน่ายได้ หากเลขไม่ตรงกัน หรือโทรเช็กกับผู้จัดจำหน่ายไม่ได้ ให้สงสัยไว้ก่อนว่ากล่องนั้นเป็นฟิลเลอร์ปลอม

สังเกตเลขอย. ว่าเป็นของแท้หรือของปลอม

ฟิลเลอร์แท้จะต้องมีฉลากภาษาไทย และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีเลขทะเบียนอย. เอกสารกำกับภาษาไทย และรายละเอียดสินค้า ระบุอยู่ข้างกล่องชัดเจน ถ้าบนกล่องไม่มีฉลากภาษาไทย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าจะเป็นฟิลเลอร์ปลอม

สังเกตฉลากและบรรจุภัณฑ์

ฟิลเลอร์แท้ ตัวยาต้องอยู่ใน package ที่ปิดมิดชิด ไม่มีส่วนใดถูกเปิดมาก่อน ในกล่องต้องมีเข็ม และหลอดยาที่มีหัวจุกปิดอยู่อย่างเรียบร้อย เพราะโดยส่วนมากฟิลเลอร์ปลอม มักอยู่ในสภาพการบรรจุที่ไม่สมบูรณ์ ก่อนฉีด ควรขอให้แพทย์เปิดกล่องให้ดูต่อหน้า เพื่อป้องกันการนำฟิลเลอร์ไปผสมน้ำเกลือหรือเปลี่ยนเป็นฟิลเลอร์ปลอม

วิธีสังเกตฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงและอันตรายจาก ฟิลเลอร์ปลอม

ฟิลเลอร์ปลอมสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ ดังนี้

การแพ้และปฏิกิริยาทางผิวหนัง

การใช้ฟิลเลอร์ปลอมอาจทำให้เกิดการแพ้ ปฏิกิริยาทางผิวหนังที่รุนแรง และทำให้ผิวหนังเสียหาย

การติดเชื้อจาก ฟิลเลอร์ปลอม

ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งต้องรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะและอาจต้องมีการผ่าตัด

การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ปลอมอาจไม่คงรูป ทำให้รูปร่างของใบหน้าเปลี่ยนแปลงและไม่เป็นธรรมชาติ

วิธีป้องกันและการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย

การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันว่ามีวิธีการเลือกใช้ฟิลเลอร์อย่างไรบ้าง

ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการแพทย์

ตรวจสอบแบรนด์และผลิตภัณฑ์

การตรวจสอบแบรนด์และผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำและเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับตนเอง

ทำไม ฟิลเลอร์ปลอม ถึงเป็นปัญหาใหญ่ในวงการความงาม

การใช้ฟิลเลอร์ปลอมเป็นปัญหาที่สำคัญและรุนแรงในวงการความงามด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้:

1. คุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

ฟิลเลอร์ปลอมมักผลิตจากวัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การใช้ฟิลเลอร์ปลอมอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อสุขภาพ และส่งผลต่อความงามในระยะยาว

2. ผลข้างเคียงและปัญหาสุขภาพ

ฟิลเลอร์ปลอมสามารถทำให้เกิดการแพ้ และก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางผิวหนังที่รุนแรง เช่น บวม แดง คัน หรือแม้กระทั่งการติดเชื้อที่รุนแรง ซึ่งบางครั้งอาจต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือการใช้ยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ปลอมอาจเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการ หรือที่เรียกกันว่า ฟิลเลอร์ไหล ทำให้โครงสร้างของใบหน้าเปลี่ยนแปลงและไม่เป็นธรรมชาติ

3. การทำลายความน่าเชื่อถือของวงการความงาม

การใช้ฟิลเลอร์ปลอมไม่เพียงแต่ทำลายสุขภาพของผู้ใช้ แต่ยังทำลายความน่าเชื่อถือของวงการความงามด้วย ฟิลเลอร์ปลอมที่ใช้ในคลินิกที่ไม่มีมาตรฐานสามารถทำให้ผู้เข้ารับบริการสูญเสียความไว้วางใจในบริการเสริมความงาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจ แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์

4. การเข้าถึงฟิลเลอร์ปลอมที่ง่ายดาย

ฟิลเลอร์ปลอมมักมีราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือจากแหล่งที่ไม่ได้รับการรับรอง ทำให้ผู้ที่ต้องการเสริมความงามเลือกใช้ฟิลเลอร์ปลอมโดยไม่ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ความต้องการในฟิลเลอร์ที่ราคาถูกทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของสินค้าปลอมที่ไม่ปลอดภัย

5. ขาดการศึกษาและความรู้เกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ปลอม

ผู้บริโภคหลายคนขาดความรู้และการศึกษาที่เพียงพอเกี่ยวกับฟิลเลอร์และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม การขาดความรู้ทำให้ผู้เข้ารับบริการไม่สามารถตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือเลือกใช้บริการจากคลินิกที่มีมาตรฐานได้อย่างถูกต้อง

6. ความท้าทายในการบังคับใช้กฎหมาย

การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปลอมยังคงเป็นความท้าทาย เนื่องจากการผลิตและจำหน่ายฟิลเลอร์ปลอมมักเกิดขึ้นในตลาดที่ไม่ได้รับการควบคุม การควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในตลาดที่มีการปลอมแปลงสูงจึงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก

การป้องกันและแก้ไขปัญหาฟิลเลอร์ปลอมในวงการความงามจึงต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งจากผู้บริโภคที่ต้องการเสริมความงาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการใช้ฟิลเลอร์เสริมความงามอย่างยั่งยืน

Similar Posts