“สิว” แม้จะไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรง แต่ก็ทำให้สูญเสียความมั่นใจไปไม่ใช่น้อย สาเหตุเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนและต่อมไขมันจนเกิดการอักเสบขึ้น อาจพบร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรีย สิวมักพบมากในบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่กันอย่างหนาแน่น เช่น บริเวณใบหน้า แผ่นหลัง และหน้าอกโดยทั่วไป
สิว แบ่ง ได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่
- สิวที่มีการอักเสบ เช่น สิวอักเสบ , สิวที่เป็นตุ่มแดง , สิวหนอง , สิวหัวช้าง
- สิวที่ไม่มีการอักเสบ เช่น สิวอุดตัน , สิวผด , สิวไม่มีหัว
สิว เกิดจากอะไร?
ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวมีด้วยกันหลายประการ อาทิเช่น กรรมพันธุ์ ระดับของฮอร์โมน โรคประจำตัว เช่น ในผู้หญิงที่มีถุงน้ำรังไข่หลายใบจะมีการหลั่งฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติ ทำให้เกิดสิว และหน้ามัน
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่เป็นตัวการให้เกิดสิวได้เช่นกัน ได้แก่
- เครื่องสำอาง
ส่วนประกอบของเครื่องสำอางบางชนิดอาจทำให้รูขุมขนอุดตัน และเกิดสิวอุดตันได้
- อาหาร
ถึงแม้จะยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจน แต่มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าอาหารบางชนิด เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม แป้ง และขนมหวานต่างๆ กระตุ้นให้เกิดสิวเพิ่มมากขึ้นได้ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มนี้ดีกว่า
- สเตียรอยด์
มักเป็นส่วนผสมในครีม ที่โฆษณาว่าทำให้หน้าขาวใส หน้าเด้ง ในช่วงแรกที่ใช้หน้าจะขาวใส สิวจะยุบจริง แต่ถ้าใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดสิวหรือผื่นผิวหนังอักเสบขึ้นมาได้ ซึ่งการรักษาค่อนข้างยากและใช้เวลานาน จึงควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง
วิธีการรักษาสิว
1.การใช้ยาทา
• กรดวิตามินเอชนิดทา จะใช้กับ สิวอุดตัน โดยยาจะไปลดการอุดตันของสิว และทำให้การผลัดเซลล์ผิวกลับมาเป็นปกติ ในช่วงแรกที่ใช้อาจเกิดสิวเห่อขึ้นมาได้ ไม่ต้องตกใจนะคะ ให้ใช้ยาต่อเนื่องต่อไป กว่าตัวยาจะออกฤทธิ์อาจใช้เวลาประมาณ 3-6 สัปดาห์ โดยทาวันละครั้งก่อนนอน แต่ยานี้ ก็มีผลข้างเคียง ที่ควรระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ผิวแห้ง แสบ ระคายเคือง และห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
• เบนซอยล์ เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) ทำให้หัวสิวหลุดออกได้เร็วขึ้น และมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย วิธีใช้ให้ทายาบริเวณที่เป็นสิวทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก ผลข้างเคียง คือ อาจทำให้หน้าแดง ลอกเป็นขุย หรือมีอาการคันยิบๆ ที่ใบหน้า
2.การใช้ยาชนิดรับประทาน
• ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาดอกซีไซคลีน Doxycycline) ให้รับประทานตามระยะเวลาที่แพทย์สั่ง ห้ามรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน และห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร อาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียน ผิวหนังไวต่อแสงแดดมากขึ้น
3.รักษาด้วย โปรแกรมรักษาสิว กับ ลา กราซ คลินิก
La Grace Clinic มีโปรแกรมรักษาสิวที่กำจัดตั้งแต่วงจรสิว และ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยแดง รอยดำจากสิวได้ โปรแกรมรักษาสิวจาก La Grace ประกอบไปด้วย
– “กดสิว” เพื่อเคลียร์สิวเก่า และ สิวอุดตัน
– ทำ Rejuvenation Laser เพื่อฆ่าเชื้อสิว ลดรอยสิว กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยให้ผิวหน้าเนียนใส
– Mask Acne เป็นการมาสก์หน้า เพื่อลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดง รอยดำ ดูดซับความมันส่วนเกิน
เรื่องสิว อาจไม่ใช่เรื่องสิวสิว ของหนุ่มสาวที่กำลังมีฮอร์โมนพลุ่งพล่าน เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เมื่อเป็นแล้ว และได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง สิว จะค่อยๆหายไป และแทบจะไม่เหลือร่องรอยความเสียหายไว้บนผิวเลย
สอบถามข้อมูลรักษาสิว ราคา หรือนัดปรึกษาแพทย์ได้ที่
Line:@lagraceclinic , FB:lagracebeautyclub , IG:lagracebeautyclub , โทร : 087-494-4000 , 087-494-9000