รอยแตกลาย ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวพรรณที่คอยกวนใจคุณสาวๆ นอกเหนือไปจากเรื่องความหมองคล้ำ รอยเหี่ยวย่น หรือรอยดำต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า รอยต่างๆเหล่านี้ เป็นร่องรอยที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นบนผิว เพราะถึงจะไม่ใช่รอยที่เด่นชัดนัก แต่ก็ทำให้ขาดความมั่นใจได้
เมื่อเป็นปัญหาหนักใจได้ขนาดนี้ เราลองมาทำความรู้จักกับเจ้ารอยแตกลาย และวิธีรับมือกันดีกว่า
รอยแตกลาย คืออะไร ?
รอยแตกลายเกิดจากการที่ผิวหนังของเราถูกยืดออกมากจนเกินขีดจำกัดของความยืดหยุ่นของผิว ซึ่งหากมีการยืดขยายอย่างรวดเร็ว หรือยืดอย่างกะทันหัน จะทำให้เหมือนผิวถูกฉีก กลายเป็นเส้นรอยลึกในชั้นผิวได้ มีลักษณะเป็นเส้นๆสีขาว สีเงิน หรือสีมันเงา ซึ่งจะกินลึกไปในชั้นหนังแท้ ถึงจะเป็นริ้วรอยเส้นเล็กๆ แต่ค่อนข้างเห็นได้ชัดเจน เพราะสีจะต่างจากสีผิวของเรา ทำให้เหมือนเป็นรอยด่างบนผิว สร้างความกังวล และลิดรอนความมั่นใจไปได้
รอยแตกลาย เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่ารอยแตกลายเกิดจากการที่ผิวหนังถูกยืดออกมากจนเกินลิมิตของความยืดหยุ่นของผิวที่จะรับได้ ผิวจึงเหมือนถูกฉีกเป็นริ้วๆ ดังนั้น สาเหตุของรอยแตกลายก็จะมาจากการที่รูปร่างมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และกะทันหัน เช่น
- การตั้งครรภ์
- น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- คนที่เป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มอาการ Marfan (เป็นความผิดปกติของเนื้อเยื่อส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างร่างกาย และมีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย)
- คนที่ใช้ครีมที่มีสารปรอท หรือสเตียรอยด์ผสมอยู่
รอยแตกลายส่วนใหญ่จะพบได้ที่บริเวณ ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ก้น สะโพก ซึ่งไม่ได้มีอันตรายอย่างใดต่อร่างกาย แต่มีผลด้านความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
รอยแตกลายมีกี่ประเภท
รอยแตกลาย อาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ตามลักษณะของสี และรอย
รอยแตกลายแดง เป็นรอยแตกลายใหม่ ที่เกิดจากการยืดตัวของผิวหนังที่รวดเร็วเกินไป ทำให้เกิดหลอดเลือดอุดอยู่ใต้ผิวหนัง ผิวจึงเป็นสีแดง ถือเป็นรอยแตกลายที่รักษาได้ง่าย เพราะเพิ่งเกิดขึ้น ผิวยังไม่ได้รับความเสียหายมากนัก
รอยแตกลายขาว มักจะเป็นรอยเก่าที่เกิดขึ้นมานานแล้ว โดยมากจะเริ่มจากรอยแตกลายแดง เมื่อไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี นานวันเข้า หลอดเลือดที่เห็นชัดในตอนแรกก็จะจางลง เหลือเป็นเพียงรอยสีขาว ซึ่งจะรักษายากแล้ว
แล้วเราจะมีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดรอยแตกลายได้อย่างไร?
รอยแตกลายเกิดจาก การยืดที่มากเกินความยืดหยุ่นของผิวจะรับได้ วิธีที่จะช่วยลดโอกาสเกิดรอยแตกลายได้ก็คือ การทำให้ผิวของเราแข็งแรง มีความยืดหยุ่นสูง เช่น
- ทาครีมให้ความชุ่มชื้นกับผิวเป็นประจำ
- รักษาน้ำหนักให้คงที่
- ดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำ เพื่อป้องกันผิวแห้งจากการขาดน้ำ
- หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี ที่จะทำให้เกิด Yoyo Effect ได้
- ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายและผิวหนังมีความแข็งแรง
วิธีการรักษารอยแตกลาย
วิธีการรักษารอยแตกลายมีหลายวิธี ตั้งแต่รักษาด้วยการทายาไปจนถึงการทำเลเซอร์ ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของรอยแตกลายนั้นๆ
- ทายาพวก Retin – A ที่สามารถรักษารอยแผลเป็นได้ สามารถใช้ยานี้สำหรับรอยแตกลายแดงได้ เพราะเป็นรอยที่เพิ่งเกิด แต่ควรต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ผู้ที่ตั้งครรภ์ ไม่สามารถใช้ยานี้ได้
- ใช้ Hyaluronic Acid หรือกรดไฮยาลูรอนิก ซึ่งมีความปลอดภัย สามารถใช้ได้กับทุกคน เพราะเป็นสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว แต่สามารถใช้ได้กับรอยแตกลายที่เกิดขึ้นใหม่ๆและอยู่ในระดับตื้นเท่านั้น ถ้าเป็นรอยเก่าๆที่กินลึกในผิว ยานี้อาจไม่ตอบโจทย์
- การใช้เครื่องขัดผิว (Micro Dermabrasion) เป็นการใช้เครื่องมือขัดผิวด้วยผลึกเล็กๆ เพื่อผลัดเซลล์ผิวด้านบนออก กระตุ้นให้ให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ รอยดำหรือรอยแตกลายจะจางลงได้ ผิวที่สร้างใหม่ จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำให้
- การฉีด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิว เพื่อช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว และไขมันบริเวณนั้นสลายไป วิธีการนี้ สามารถช่วยลดรอยแตกลายได้ เพราะเมื่อเส้นเลือดเกิดการขยายตัว เส้นเลือดฝอยก็จะไหลเวียนดีขึ้น ผิวบริเวณนั้นก็จะกระชับและยืดหยุ่นขึ้น อ่านเพิ่มเติม ลดรอยแตกลาย ขจัดเซลลูไลท์ Carboxy Therapy
- การรักษาด้วยเลเซอร์ประเภท Fractional Laser ที่ใช้พลังงานความร้อนเข้าไปทำลายเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ นอกจากนี้ ความร้อน ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวขึ้นมา ช่วยให้ผิวที่เกิดใหม่แข็งแรง ยืดหยุ่น รอยแผลเป็นจางลง อ่านเพิ่มเติม <strong>Peeling Smooth : สร้างผิวใหม่ ให้เนียนใสกว่าเดิม</strong>
บทสรุป รอยแตกลาย
รอยแตกลายเกิดจากการยืดของผิวหนังที่มากเกินกว่าความยืดหยุ่นของผิวจะรับได้ ทำให้เกิดเป็นรอยริ้วเล็กๆบนผิวหนัง มักเกิดตามสะโพก ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ก้น เป็นต้น ถ้าเป็นรอยสีแดงๆ จะรักษาได้ง่ายกว่ารอยสีขาว วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดรอยแตกลายก็คือ ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง และมีความยืดหยุ่นสูง เพื่อจะได้ไม่ฉีกขาดง่าย แต่ถ้าเกิดรอยแตกลายขึ้นมาแล้ว สามารถใช้ยาทาช่วย หรือใช้เครื่องมือในการผลัดเซลล์ผิว ไปจนถึงการรักษาด้วยเลเซอร์ ซึ่งจะใช้วิธีใดรักษา ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้แนะนำ
สนใจปรึกษาแพทย์เรื่องรอยแตกลาย ได้ที่
Line:@lagraceclinic , FB:lagracebeautyclub , IG:lagracebeautyclub , โทร : 087-494-4000 , 087-494-9000