ควรเลือก Ulthera หรือ HIFU เพื่อให้หน้าตึงกระชับ

Ulthera vs HIFU สองนวัตกรรมยอดนิยมในการ ยกกระชับใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า “Ulthera กับ HIFU ต่างกันอย่างไร?” และ “ควรเลือกทำอันไหนดีให้เห็นผลชัดเจน และช่วยให้หน้าเรียวกระชับ มากกว่ากัน ?” La Grace มีคำตอบที่จะช่วยไขข้อสงสัย พร้อมแนะนำวิธีเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว และปัญหาของคุณอย่างลึกซึ้ง มาฝากกันค่ะ

Ulthera คืออะไร?

Ulthera (หรือ Ultherapy) เป็นเทคโนโลยีการ ยกกระชับผิว ด้วย คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ ที่มีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ซึ่งสามารถลงลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ ใช้ดึงหน้าในการผ่าตัด

จุดเด่นของ Ultherapy

• อัลเทอร่า เป็นเครื่องมือที่สามารถลงลึกได้ถึงชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) อย่างแม่นยำ
• ใช้เทคโนโลยี Visualization (หน้าจอ ที่ใช้ดูภาพใต้ผิว) เพื่อความแม่นยำสูง เพราะมีหน้าจอให้แพทย์ ได้ดูชั้นผิวขณะทำ ว่าลงลึกถึงชั้นไหนแล้ว ทำให้แน่ใจว่า พลังงานลงลึกถึงชั้นที่แพทย์ต้องการทำการรักษาจริงๆ
• เห็นความแตกต่างเรื่อง ยกกระชับผิว ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำประมาณ 20-30% ผลลัพธ์ชัดเจนใน 2-3 เดือน และคงผลลัพธ์ได้นาน 12-18 เดือน
• ได้รับการรับรองจาก US FDA และ องค์การอาหาร และยา ประเทศไทย

HIFU คืออะไร?

HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ ที่ถูกออกแบบมาให้กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน ในชั้นผิว ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวบางส่วน

จุดเด่นของ HIFU (ไฮฟู)

• ช่วยกระตุ้น คอลลาเจน ทำให้ผิวแน่น กระชับขึ้น
• รู้สึกสบายขณะทำมากกว่า อัลเทอร่า
• ราคาย่อมเยากว่า อัลเทอร่า
• เห็นผลหลังทำ 1-2 เดือน อยู่ได้นาน 6-12 เดือน (ขึ้นกับเครื่อง และสภาพผิว)

เปรียบเทียบ Ulthera vs HIFU แบบละเอียด

รายการเปรียบเทียบ	Ulthera	HIFU
ระดับความลึกของคลื่น	ลึกถึงชั้น SMAS (4.5 mm)	1.5 – 3.0 – 4.5 mm (แล้วแต่เครื่อง)
ระบบ Visualization	มีระบบดูภาพใต้ผิวแบบ Real-Time	ส่วนใหญ่ไม่มี
ระดับความแม่นยำ	สูงมาก	ปานกลางถึงสูง (ขึ้นกับเครื่อง)
ผลลัพธ์	เห็นผลชัดเจน ตึงกระชับชัดเจน	กระชับขึ้นเล็กน้อย ถึง ปานกลาง
ความรู้สึกขณะทำ	อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย	สบายกว่า
ราคาต่อครั้ง	สูงกว่า	ย่อมเยากว่า
เหมาะกับใคร	ผู้ที่มีอายุ 35+ หรือ ผิวหย่อนคล้อย มาก	ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนเล็กน้อย
ระยะเวลาคงผลลัพธ์	12-18 เดือน	6-12 เดือน

Ultherapy เหมาะกับใคร ?

• ผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป
• ผิวหย่อนคล้อยมาก หรือมี ริ้วรอยลึก
• ต้องการผลลัพธ์ใกล้เคียงการดึงหน้า
• ต้องการความแม่นยำ และปลอดภัยสูง
• พร้อมจ่าย เพื่อผลลัพธ์ระยะยาว

ไฮฟู เหมาะกับใคร ?

• ผู้ที่เริ่มมีปัญหา ผิวหย่อนคล้อย เล็กน้อย
• อายุระหว่าง 25-35 ปี
• ต้องการบำรุงผิวให้ตึงกระชับแบบไม่เจ็บ
• มีงบประมาณจำกัด
• ทำเป็นประจำทุก 6 เดือนได้

เลือก Ulthera (อัลเทอร่า) หรือ HIFU (ไฮฟู) ดี?

การจะเลือกทำ Ulthera หรือ Hifu มีหลายปัจจัย ในการพิจารณาเช่น

ระดับความหย่อนคล้อยของผิว

ถ้าผิวหย่อนคล้อยมาก เลือกทำ อัลเทอร่า จะเห็นผลชัดเจนกว่า

ถ้าผิวหย่อนเล็กน้อย สามารถเลือกทำ ไฮฟู และ maintain ทุกๆ 6 เดือน 

งบประมาณ 

งบมาก เน้นผลลัพธ์ระยะยาว → อัลเทอร่า

งบจำกัด ต้องการดูแลผิวเป็นประจำ → ไฮฟู

ผลลัพธ์ที่ต้องการ

ต้องการยกกระชับเห็นผลชัดเจน → อัลเทอร่า

ต้องการดูดีแบบธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป → ไฮฟู

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. อัลเทอร่า กับ ไฮฟู อันไหนเจ็บกว่ากัน?

Ulthera จะเจ็บมากกว่าเล็กน้อย เพราะพลังงานส่งลึกถึงชั้น SMAS แต่สามารถใช้ยาชา หรือทาครีม ช่วยลดความรู้สึกได้

2. หลังทำ อัลเทอร่า หรือ ไฮฟู ต้องพักฟื้นไหม?

ไม่ต้องพักฟื้นค่ะ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่อาจมีรอยแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปภายใน 1-2 ชั่วโมง

3. ทำได้บ่อยแค่ไหน?

• Ulthera: แนะนำปีละ 1 ครั้ง
• HIFU: ทำได้ทุก 3-6 เดือน แล้วแต่สภาพผิว

4. สามารถทำ Ulthera และ HIFU ร่วมกันได้ไหม?

ได้ค่ะ ในบางเคส แพทย์อาจใช้เทคนิคผสมผสาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น ทำ HIFU บ่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ และทำ Ulthera ปีละครั้ง เพื่อยกกระชับลึก

5. ผลลัพธ์ถาวรไหม?

ไม่ถาวรค่ะ เพราะผิวจะเสื่อมตามวัย ควรทำซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อรักษาผลลัพธ์ไว้

สรุป: Ulthera หรือ HIFU อะไรตอบโจทย์คุณมากกว่ากัน?

การเลือกทำ Ulthera หรือ HIFU ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่แน่นอน ยาวนาน และผิวคุณเริ่มหย่อนคล้อยมาก Ulthera คือคำตอบ แต่หากคุณอายุยังน้อย เพิ่งเริ่มมีปัญหา หรืออยากดูแลผิวแบบต่อเนื่อง HIFU ก็เป็นตัวเลือกที่ดี และคุ้มค่า

👉 คำแนะนำสำคัญ: ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินปัญหาผิว และแนะนำแนวทางการดูแลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ