PRP Therapy คือการนำ Biotechnology มาใช้ในการฟื้นฟูสภาพผิวพรรณ โดยใช้เลือดของตัวเองมารักษาหรือซ่อมแซมผิว ให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส
PRP Therapy ทำงานอย่างไร?
เลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของมนุษย์ประกอบไปด้วย พลาสมาเหลว (Plasma) เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red Blood cell) เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood cell) และเกล็ดเลือด(Platelet) โดยเกล็ดเลือด ยังแบ่งออกเป็น 2 ชนิดก็คือ เกล็ดเลือดเข้มข้น (Platelet Rich Plasma) และเกล็ดเลือดที่ไม่เข้มข้น (Platelet Poor Plasma)
เมื่อนำเลือดของตัวเองมาปั่น จะเป็นการแยกชั้นของพลาสมา (Plasma) ออกมา ซึ่งในพลาสมาจะมีเกล็ดเลือดอยู่ แพทย์จะสกัดเอาเกล็ดเลือดจากชั้นที่มีความเข้มข้นสูงที่สุดมาใช้ในการบำบัดและฟื้นฟูสภาพเซลล์ผิว ความเข้มข้นของเกล็ดเลือดที่สกัดมาจะมากกว่าเลือดปกติประมาณ 3-4 เท่า สามารถกระตุ้น Growth Factor ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในร่างกายของสิ่งมีชีวิต Glowth Factor จะไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจน กระตุ้นการเติบโตและการแบ่งเซลล์ของผิวหนัง ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว ให้เรียบ ตึง กระชับขึ้น พร้อมทั้งช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้นด้วย
PRP Therapy ช่วยเรื่องใดได้บ้าง?
- ช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และกระตุ้นความแข็งแรงของผิวในระดับลึก ทำให้หน้าดูสดใส อ่อนเยาว์
- ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น หางตา หน้าผาก ลำคอ หรือผิวทั่วร่างกาย
- แก้ปัญหาร่องแก้มและรอยคล้ำใต้ตา
- ช่วยรักษาสิว ฝ้ากระ จุดด่างดำ รอยดำจากสิว ช่วยให้ขนาดรูขุมขนเล็กลง
- แก้ปัญหาหลุมสิว รอยสิวหรือแผลเป็นบนใบหน้า
- กระชับรูขุมขน
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยให้ผิวพรรณสว่าง กระจ่างใส
หลังทำ PRP Therapy จะเห็นผลภายใน 2-4 สัปดาห์แรก (ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเลือด ที่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล) แนะนำให้ฉีดซ้ำ 2-3 ครั้ง จะเห็นผลชัดเจนขึ้น และอยู่ได้นานเป็นปี
สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เช่น เลเซอร์ ทรีตเมนต์ วิตามินผิว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น
โอกาสแพ้น้อยมาก เพราะมาจากเลือดของตัวเอง
การเตรียมตัวก่อนทำ PRP Therapy
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำมากๆ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยากลุ่ม NSAIDs ประมาณ 1 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน
การดูแลตัวเองหลังทำ PRP Therapy
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าหลังทำ 4-5 ชั่วโมงแรก
- งดแต่งหน้าอย่างน้อย 1 วัน
- หลีกเลี่ยงการทาครีมที่มีส่วนผสมของ AHA และสาร Whiteningอื่นๆ
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดประมาณ 2-3 วัน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยากลุ่ม NSAIDs ประมาณ 1 สัปดาห์
- หลังทำอาจมีอาการบวม แดง หรือรอยช้ำใน 2-3 วันแรก และจะค่อยๆดีขึ้น
**ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล**