ฉีดฟิลเลอร์ เติมสปริงให้ผิวเด้ง เต่งตึง

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เติมเต็มให้ปากอิ่ม ตึง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เติมเต็มร่องลึก เพิ่มมิติให้ดวงตาสวย

ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา เทรนด์การเสริมความงามด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เป็นที่นิยมกันมากเพราะการ ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ทำให้สาวๆ ดูสวยขึ้นได้แบบไม่ต้องเจ็บตัวและยังคงนิยมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร ช่วยเรื่องใดได้บ้าง

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ การฉีดเติมเต็มด้วยสาร Hyaluronic Acid หรือ HA ซึ่งเป็นสารประกอบของคอลลาเจน ที่มีอยู่แล้วในร่างกายของเรา สารไฮยาลูโรนิก แอซิด(Hyaluronic Acid) ที่มีความคงตัวนี้ ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ และใช้ทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว เช่นคอลลาเจนและไฮยาลูรอน ที่ร่างกายจะสูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้นนั่นเอง

คอลลาเจนเป็นโปรตีนสำคัญของผิว เพราะเป็นส่วนที่เปรียบได้กับสปริงของผิวหนัง ช่วยสร้างความตึงให้กับผิวชั้นหนังแท้ คอลลาเจนโปรตีนจะเสื่อมสภาพลงเมื่ออายุมากขึ้น พอสปริงไม่เด้งเหมือนเก่า ผิวหนังจึงยุบตัวลง ความเหี่ยวย่น ริ้วรอย และความชราของผิวพรรณจึงปรากฏ การฉีด ฟิลเลอร์ จะช่วยเติมเต็มผิวที่ยุบไปเพราะคอลลาเจนทำงานน้อยลง หรือหยุดทำงาน

ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดชุ่มชื้นขึ้นพร้อมกับการสร้างใหม่ของคอลลาเจนและอิลาสติน แม้ฟิลเลอร์ (Filler) สลายไป แต่คอลลาเจนและอิลาสตินของร่างกายที่ถูกสร้างขึ้นนั้น จะยังคงอยู่ ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวยังคงมีสภาพที่ดีกว่าตอนที่ไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

สารที่ฉีดเข้าไปนั้นสามารถย่อยสลายไปเองตามกระบวนการทำงานของร่างกาย ผลการรักษาจะอยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือน แพทย์ผู้ฉีดจะเลือกชนิดของฟิลเลอร์ให้เหมาะกับบริเวณที่ฉีด เพราะแต่ละอวัยวะมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน ต้องเลือก ฟิลเลอร์ (Filler) ให้เหมาะกับบริเวณที่ฉีด ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สามารถทำได้

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler ) บริเวณไหนได้บ้าง?

สามารถฉีด ฟิลเลอร์ (Filler) เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องได้ทั่วบริเวณใบหน้า เช่น

ฉีด ใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึกใต้ตา

เติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก

ฟิลเลอร์ (Filler) ปาก ลำคอ หลังมือ หรือแม้แต่ผิวหน้าอก

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เพื่อช่วยปรับแก้ไขรูปหน้าที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น เห็นโครงหน้าชัดเจนขึ้น เช่น เสริมจมูก แก้ม ปาก ให้สวย อวบอิ่มขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler ) ปลอดภัยไหม?

ฟิลเลอร์ (Filler) มีหลายชนิด หลายยี่ห้อ ถ้าเป็น ฟิลเลอร์ (Filler) แท้ ที่มีสาร Hyaluronic Acid 100 % และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะปลอดภัยสูง เพราะสามารถย่อยสลายไปเองตามกระบวนการธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง โดยทั่วไปหากเป็นฟิลเลอร์แท้ จะอยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือนก็จะสลายออกไปหมด ไม่เหลือตกค้างให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ปัจจุบันมี ฟิลเลอร์(Filler) ราคาถูกบางยี่ห้อที่ใช้สารตัวอื่นเช่น ซิลิโคนเหลว หรือใช้ฟิลเลอร์ปลอม จะส่งผลที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ฟิลเลอร์ (Filler) ปลอมจะตกค้างอยู่ในร่างกายนานกว่า ฟิลเลอร์ (Filler)แท้ จึงมีหลายที่โฆษณาว่าฉีดแล้วอยู่ได้นานหลายปี ซึ่งไม่เป็นความจริง ฟิลเลอร์ (Filler) แท้จะอยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือนเท่านั้น แล้วจะสลายออกไปหมด ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ควรเช็คให้แน่ใจว่าคลินิกที่ไปฉีดใช้ฟิลเลอร์ (Filler) แท้ และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

วิธีการดูฟิลเลอร์ (Filler ) แท้

เลขทะเบียน อ.ย. เช็คได้ถูกต้อง
มีฉลากภาษาไทยอยู่บนกล่อง ระบุราคาชัดเจน
ด้านหลังของแพ็คเกจ จะมีสติ๊กเกอร์ระบุเลข lot และวันหมดอายุชัดเจน ซึ่งจะต้องตรงกันกับที่ติดไว้ที่หลอด
สามารถนำเลข lot เช็คกับบริษัทนำเข้าได้

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler ) แล้วหน้าเบี้ยว จริงหรือ ?

ฟิลเลอร์ (Filler) แท้ จะสลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง จึงไม่ไหลไปตามส่วนอื่นของใบหน้า ไม่ทำให้หน้าเบี้ยว แต่ถ้าเป็นฟิลเลอร์ (Filler) ปลอมซึ่งผสมซิลิโคน จะตกค้างอยู่บนผิวนานและมีสิทธิ์ที่จะไหลไปตามส่วนอื่นของใบหน้า ทำให้หน้าเบี้ยวได้

นอกจากนั้น การเลือกชนิดของฟิลเลอร์ (Filler) ให้เหมาะกับบริเวณที่ฉีดก็จะช่วยไม่ให้เกิดการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ (Filler) เพราะฟิลเลอร์ (Filler) แต่ละชนิดจะมีขนาดของโมเลกุลไม่เท่ากัน ในบางที่ ถ้าฉีดฟิลเลอร์(Filler) ที่มีโมเลกุลใหญ่เกินไป จะทำให้หนักและหน่วงผิว ฟิลเลอร์ (Filler) จะเคลื่อนที่หรือที่เรียกว่า ฟิลเลอร์ไหล นั่นเอง

การ ฉีดฟิลเลอร์ (Filler ) ต้องฉีดกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?

โดยทั่วไป จะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด และจะคงอยู่ไปประมาณ 18-24 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิว และการดำเนินชีวิตของแต่ละคน หลังจากนั้น ฟิลเลอร์ (Filler) จะสลายไปเองตามธรรมชาติ

ถ้าฉีดฟิลเลอร์แล้ว ไม่ฉีดเพิ่ม หน้าจะเหี่ยว จริงไหม?

มีความเชื่อที่ว่า ถ้าฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แล้วไม่ฉีดเพิ่มอีก จะทำให้หน้าเหี่ยวกว่าเดิม เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะอย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่า ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารที่เข้าไปเติมเต็มคอลลาเจนให้ผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่นเหมือนมีสปริง เมื่อฟิลเลอร์ (Filler) สลายไป ผิวก็แค่กลับไปสู่สภาพเดิมเท่านั้น แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แล้วไม่ดูแลผิวดีๆหรือใช้ชีวิตโลดโผน เช่น กินเหล้า สูบบุหรี่ เมื่อ ฟิลเลอร์(Filler) สลายไป ผิวย่อมหี่ยวย่นแน่นอน ไม่เกี่ยวกับฟิลเลอร์ (Filler) แต่อย่างใด

ฟิลเลอร์ (Filler ) ที่ไหนดีและถูก?

คำถามนี้มักพบบ่อยมาก ว่าฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ที่ไหนดีและถูก ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาว่าควรฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ต้องดูปัจจัยหลายอย่าง

ชื่อเสียงของคลินิกว่าได้มาตรฐานหรือไม่
ฟิลเลอร์ (Filler) ที่ใช้ เป็นของแท้ คุณภาพสูงไหม ? เพราะบางที่ทำราคาฉีดฟิลเลอร์ (Filler)ให้ถูกลง แต่ใช้ฟิลเลอร์ (Filler) ที่ไม่ได้คุณภาพ ผลที่ตามมาย่อมไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้
ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ (Filler )

งดรับประทานยาแก้ปวด ยาแอสไพริน และยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibuprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำ
งดวิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาหารเสริมเหล่านี้ทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก
งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน เนื่องจากแอลกอฮอล์จะกระตุ้นให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้อาจมีเลือดออกมาก และรอยแผลจากเข็มหายช้าลง
หากมีโรคประจำตัวหรืออยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรแจ้งแพทย์ อย่างละเอียดก่อน

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

งดการออกกำลังกายหนักๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
งดจับ คลำ หรือนวด บริเวณที่ทำการฉีด เพราะอาจทำให้ยากระจายตัวผิดรูปและเพิ่มความช้ำได้
ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำ อิ่มฟูขึ้น ทำให้เห็นผลนานขึ้น
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
งดไปอยู่ในที่ร้อนมากๆ เช่น อบซาวน่า แช่น้ำร้อน หรือโยคะร้อน เป็นต้น