Sculptra ขมับบุ๋ม ขมับแบน คืออะไร? ทำไมเหมาะกับคนที่อยากเติมใบหน้าให้ดูมีพลังขึ้นแบบเนียนๆ
บางทีความโทรมของหน้าไม่ได้มาจากใต้ตา หรือริ้วรอยที่เห็นชัด ๆ เลยค่ะ แต่เกิดจาก “ช่วงขมับ” ที่เว้าลึกจนทำให้โครงหน้าเหมือนขาดพลัง โดยเฉพาะตอนถ่ายรูปด้านข้างหรือสามสี่ส่วน จะเห็นเงาตกมุมบริเวณนี้ชัดมาก ซึ่งมันทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนแรง แม้ว่าเราจะพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ตาม นี่คือเหตุผลที่หลายคนเริ่มสนใจคำว่า Sculptra ขมับบุ๋ม ขมับแบน เพราะมันเป็นการฟื้น “โครงสร้างระดับเนื้อผิวจริง ๆ” ไม่ใช่การเติมอะไรให้พองทันที แต่เป็นการช่วยให้ผิวกลับมาสร้างความอิ่ม และความเอิบอิ่มของตัวเองใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ
“ขมับ” มีผลกับความรู้สึกว่าเราดูสดหรือดูโทรม บางคนเกิดมาขมับแบนอยู่แล้ว แบบโครงสร้างหน้า (รูปหน้า heart shape / V-shape บางแบบ) บางคนไม่ได้แบนแต่แรก แต่พออายุประมาณสามสิบปลายๆขึ้นไป จะเริ่มเห็น “เว้า” ชัดขึ้นเรื่อยๆ เพราะเนื้อใต้ผิวบริเวณนี้ มันค่อยๆหายไปกับเวลา
นี่คือ volume loss แบบเงียบมาก ไม่ใช่ความเหี่ยวแบบเส้นๆ แต่เป็นความบาง “แบบลึก”
ทำไม Sculptra ถึงเหมาะกับ ขมับบุ๋ม
Sculptra ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นวัสดุไปเติมเต็มช่องว่างแบบทันที แต่มันคือสัญญาณให้ร่างกาย “สร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา” ทำให้ความอิ่มกลับมาอย่างที่โครงหน้านั้นเคยมี
ถ้าเปรียบให้ง่ายที่สุดคือ:
ฟิลเลอร์ = ปริมาตรสำเร็จรูป
Sculptra = ปริมาตรที่ร่างกายสร้างขึ้นเอง
และความอิ่มที่ได้จาก Sculptra มัน “กลืนกับหน้า” แบบลึกกว่า เพราะมันคือ native tissue
👉 อ่านข้อมูลเชิงลึกจาก ผู้ผลิต Sculptra ได้ที่นี่
คนแบบไหนที่เหมาะกับ Sculptra ขมับบุ๋ม
แบบคร่าวๆ แยกได้ 2 กลุ่ม
1) โครงหน้ามาแบบนี้ตั้งแต่แรก
โครงหน้า heart / diamond บางแบบ → ให้ขมับเว้าตามธรรมชาติ
2) ขมับเริ่มเว้าชัดขึ้นหลังอายุ 30–35 ปีขึ้นไป
นี่คือกลุ่ม volume loss ตามเวลา (เจอบ่อยที่สุด)
และสำหรับกลุ่มที่ “เพิ่งเริ่มเว้า” เพราะอายุ / นอนไม่พอ / ผอมลงมากในช่วงสั้นๆ
Sculptra จะออกผลในเชิง “ฟื้นคืน” มากกว่า “เปลี่ยนหน้า” นี่คือ beauty ที่ดูแพงแบบเงียบๆ
ใช้กี่ vial ถึงจะเหมาะกับ ขมับบุ๋ม ขมับแบน?
หน่วยใช้จะเป็น “ขวด” หรือ vial
(ต่างจากฟิลเลอร์ที่คิดเป็น cc)
ปริมาณที่ใช้จริง แพทย์ไม่ได้ดูจากอายุเพียงอย่างเดียว แต่จะดูจากความเว้า (ขนาด / ความลึก) และผลที่เจ้าตัวต้องการเป็นหลัก
เคสที่เจอเป็น pattern ในหลายคลินิก aesthetic จะประมาณนี้
- ขมับบุ๋มเล็กน้อย → ประมาณ 1 vial / session
- ขมับบุ๋มค่อนข้างชัด / เป็นสองข้างชัดมาก → อาจ 1.5–2 vial / session
- ถ้าบุ๋มชัด + แก้มตอบร่วมด้วย → มักเริ่ม 2 vial ขึ้นไป
และเพราะมันเป็นการกระตุ้น ไม่ใช่เติม ฉีดครั้งเดียวไม่ได้ “เห็นครบ” ส่วนใหญ่จะ design เป็น 2–3 ครั้ง ห่างกันประมาณ 4–8 สัปดาห์
อ่านบทความหลัก “Sculptra คืออะไร” ได้ที่นี่ 👉 https://lagraceclinic.com/sculptra-คืออะไร/
เห็นผลเมื่อไหร่?
แบบภาษาคนเข้าใจง่ายเลยคือ
- 2 สัปดาห์แรก = ยังไม่เห็นผลชัด
- 4–6 สัปดาห์ = เริ่มเห็นลางๆ
- เดือน 3–6 = คือช่วงสวยที่สุด
และผลอยู่เฉลี่ยประมาณ 18–24 เดือน
นี่คือ beauty ที่ไม่ได้ “ประกาศตัว” ว่าไปทำอะไรมา แต่เป็นแบบ “ทำไมหน้าดูดีขึ้นโดยที่ไม่ได้เปลี่ยนหน้า”
การดูแลหลังทำ (สำคัญ)
- นวด 5 ครั้งต่อวัน / ครั้งละ 5 นาที / 5 วัน (5×5×5)
- ดื่มน้ำเยอะๆ
- หลีกเลี่ยงซาวน่า / ความร้อนจัดช่วงแรก
- ลดกิจกรรมที่มีแรงกระแทกบริเวณหน้า
FAQ
A : คือการฉีดสารที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อคืนความอิ่มให้บริเวณขมับที่เว้าลึก ทำให้รูปหน้าโดยรวมดูสดขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ
A : เหมาะทั้งคนที่ขมับเว้ามาตั้งแต่โครงสร้างหน้าเดิม และคนที่ขมับเริ่มบุ๋มตอนอายุขึ้น เพราะ volume loss จากวัย
A : เพราะถ้าเป็นขมับบุ๋มจาก volume loss ของเนื้อผิว การกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจนใหม่จะให้ภาพรวมที่ละมุนกว่า และไม่ต้องกังวลเรื่อง texture ดูเป็นก้อน
A : ส่วนใหญ่แพทย์จะวางประมาณ 2–3 ครั้ง ห่างกัน 4–8 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวมีเวลาในการสร้างคอลลาเจนต่อเนื่อง
A : 2 สัปดาห์แรกจะยังไม่ชัด ช่วงประมาณ 3–6 เดือนจะเห็นความเปลี่ยนชัดเจนที่สุด
A : โดยเฉลี่ยประมาณ 18–24 เดือน แต่ขึ้นกับพฤติกรรมชีวิต เช่น การพักผ่อน ความเครียด ปริมาณโปรตีนในอาหาร
A : โดยทั่วไปผลจะละมุนและเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การเติมแบบพองทันที จึงไม่ค่อยเห็นเป็น texture ลอย ๆ
A : ส่วนใหญ่แนะนำให้นวด 5 ครั้งต่อวัน ครั้งละประมาณ 5 นาที เป็นเวลา 5 วัน เพื่อให้สารกระจายได้สม่ำเสมอ
ถ้าคุณอยากรู้ว่าเคสของตัวเองจะเหมาะกับ Sculptra ขมับบุ๋ม ขมับแบน มากน้อยแค่ไหน แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อนเลยค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่าย
ปรึกษาจริงกับคุณหมอ จะช่วยให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นว่าควรฟื้นฟูแบบไหน และจะได้วางแผนให้เหมาะกับโครงหน้าเฉพาะของเราได้ดีที่สุด
