นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้เข้ารับบริการตรวจและรักษาโรค
ลา กราซ คลินิกเวชกรรม มุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะที่ท่านเป็นผู้เข้ารับบริการตรวจ รักษาโรค และบริการทางการแพทย์ รวมถึงบริการต่างๆ จากคลินิก ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 คลินิกในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ตามกฎหมายในการแจ้งเอกสารฉบับนี้ให้ท่านทราบถึงเหตุผลและวิธีการที่คลินิกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแจ้งให้ท่านทราบสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
คำนิยาม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ) หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“ข้อมูลการรักษาพยาบาล” หมายถึง ข้อมูลดังต่อไปนี้
∙วัน เดือน ปี ที่เข้ารับการรักษา
∙ประวัติแพ้ยาและประวัติผลข้างเคียงจากยา
∙ประวัติแพ้อาหาร
∙ชื่อโรคที่ได้รับการวินิจฉัย ชื่อหัตถการ และชื่อการผ่าตัด
∙ผลเลือด ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
∙รายการยาที่แพทย์ได้สั่ง
∙ข้อมูลอื่น เช่น อาการ คำแนะนำของแพทย์ และรายละเอียดการวินิจฉัยโรค เป็นต้น
“ประมวลผล” หมายถึง เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอํานาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“สถานพยาบาลในเครือข่าย” หมายถึง สถานพยาบาลในกลุ่มหรือในเครือข่ายหรือสาขาของ ลา กราซ คลินิกเวชกรรม ซึ่งมีทั้งหมด 9 สาขา ดังนี้
∙ลา กราซ คลินิกเวชกรรม สาขาเซ็นทรัลเวิลด์
∙ลา กราซ คลินิกเวชกรรม สาขาเซ็นทรัลพระราม2
∙ลา กราซ คลินิกเวชกรรม สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
∙ลา กราซ คลินิกเวชกรรม สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
∙ลา กราซ คลินิกเวชกรรม สาขาเดอะพรอมานาด
∙ลา กราซ คลินิกเวชกรรม สาขาฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต
∙ลา กราซ คลินิกเวชกรรม สาขาสีลมคอมเพล็กซ์
∙ลา กราซ คลินิกเวชกรรม สาขาเซ็นทรัลซิตี้บางนา
∙ลา กราซ คลินิกเวชกรรม สาขาเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล
เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้
วัตถุประสงค์ | ประเภทข้อมูล | ฐานการประมวลผลที่ชอบด้วยกฎหมาย | |
1 | เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจรักษาโรคและให้บริการทางการแพทย์การให้บริการทางการแพทย์ภายในสถานพยาบาล คณะแพทย์พยาบาล และ/หรือ บุคลากรอื่นๆ ในทีมสุขภาพของคลินิก จะทำการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เพื่อติดตามการรักษา และ/หรือ กระทำการใดๆ ตามหลักวิชาชีพที่เกี่ยวข้องตลอดระยะเวลาที่ท่านเข้ารับบริการ โดยคลินิกจะอธิบายข้อมูลรายละเอียดให้ท่านได้เข้าใจก่อนที่จะดำเนินการ อีกทั้ง เปิดโอกาสให้ท่านซักถามจนเป็นที่พอใจการให้บริการทาการแพทย์ในกรณีจำเป็นต้องเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสถานพยาบาลในเครือข่ายเพื่อประโยชน์ในการให้บริการทางการแพทย์แก่ท่านคณะแพทย์ พยาบาล และ/หรือ บุคลากรอื่นๆเกี่ยวข้องของคลินิก อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้สถานพยาบาลในเครือข่ายในกรณีที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลระหว่างสถานพยาบาลในเครือข่ายเพื่อการให้บริการบางประเภท ทั้งนี้คลินิกได้จัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีข้อตกลงร่วมกันระหว่างสถานพยาบาลในเครือข่ายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือโดยปราศจากอำนาจ1.3 เพื่อรับ-ส่งต่อผู้ป่วยระหว่างสถานพยาบาล(Refer)ในกรณีที่คลินิก มีคำร้องขอหรือได้รับการร้องขอให้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากสถานพยาบาลหนึ่ง เพื่อไปรับการตรวจรักษาต่อที่สถานพยาบาลอื่น หรือมีคำร้องขอหรือได้รับคำร้องขอให้รับผู้ป่วยจากสถานพยาบาลหนึ่งเพื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของคลินิก ตามกระบวนการรับ-ส่งต่อผู้ป่วยระหว่าสถานพยาบาล (Refer) คลินิกจะต้องดำเนินตามกระบวนการรับ-ส่งต่อผู้ป่วยที่กำหนดไว้ตามมาตรฐานของคลินิก และจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการรับ-ส่งต่อผู้ป่วยเท่านั้น ไม่นำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น | – ข้อมูลระบุตัวตน- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ- ข้อมูลด้านสุขภาพ- ข้อมูลการเงิน | 1. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ท่านเป็นคู่สัญญากับคลินิก(ม.24 (3))2. สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว: ฐานปฏิบัติตามกฎหมายในการวินิจฉัยโรคและการรักษาทางการแพทย์ เช่น พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541และ พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 (ม.26 (5) (ก))3. สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว: เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิตร่างกาย หรือสุขภาพในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เช่น การเข้ารับบริการในกรณีฉุกเฉิน(Emergency Care) หรือเพื่อรับ – ส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล(Refer)(ม.26 (1)) |
2 | เพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาคุณภาพของการรักษาพยาบาลโดยไม่บ่งชี้ตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลคลินิกอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อการศึกษาวิเคราะห์เพื่อการพัฒนาคุณภาพของการรักษาพยาบาล โดยจะทำเป็นรูปแบบรายงานผลโดยภาพรวมที่ไม่มีการบ่งชี้ตัวตนของเจ้าของข้อมูล และคลินิกจะรักษาความลับของข้อมูลดังกล่าวของท่านอย่างเคร่งครัด | ข้อมูลสถิติ | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของคลินิก(Legitimate Interest) ในการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติโดยไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนได้เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรในด้านการรักษาพยาบาล และการให้บริการต่างๆ ของคลินิก(ม.24 (5)) |
3 | การเปิดเผยข้อมูลให้บริษัทประกันภัยที่ท่านหรือคลินิก เป็นคู่สัญญาเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้สิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยหรือใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลคลินิกจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บริษัทประกันภัยเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านหรือคลินิก ได้ทำไว้กับบริษัทประกันภัย เพื่อประโยชน์ในการเบิกจ่ายค่าสินไหมทดแทนหรือใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ทั้งนี้คลินิก จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้อง | – ข้อมูลระบุตัวตน- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ- ข้อมูลด้านสุขภาพ | เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลด้านสุขภาพให้บริษัทประกันภัย เพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยหรือใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล(ม.26) |
4 | การเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ที่ส่งท่านมาตรวจหรือเป็นผู้ชำระเงินเมื่อท่านได้ยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่หน่วยงานไม่ว่าภาครัฐ เอกชน หรือรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ส่งท่านมาตรวจรักษากับคลินิกหรือเป็นผู้ชำระค่าบริการตรวจรักษาให้แก่ท่าน คลินิกจะเปิดเผยข้อมูลการตรวจรักษาซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวให้กับบุคคลดังกล่าวเฉพาะกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าวเท่านั้น ถ้าท่านไม่ได้ให้ความยินยอมดังกล่าว คลินิกจะส่งผลตรวจรักษาให้ท่านโดยตรง | – ข้อมูลระบุตัวตน- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ- ข้อมูลด้านสุขภาพ | เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล(ม.26) |
5 | เพื่อวัตถุประสงค์ในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้านเวชระเบียนระหว่างสถานพยาบาลผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นเมื่อท่านให้ความยินยอม คลินิกจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในรูปแบบของโมบายแอพพลิเคชั่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ท่านในการรับคำปรึกษาผ่านแอพพลิเคชั่น และเพื่อให้ท่านสามารถบริหารจัดการข้อมูลผ่านแอพพลิเคชั่นได้ และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดระบบจะทำการเชื่อมโยงฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้านเวชระเบียนระหว่างสถานพยาบาลในเครือข่ายเพื่อให้ท่านสามารถเรียกดูข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มีอยู่กับสถานพยาบาลในเครือข่ายผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ โดยคลินิกมีความตกลงร่วมกับสถานพยาบาลในเครือข่ายเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นไปตามที่ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด | – ข้อมูลระบุตัวตน- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ- ข้อมูลด้านสุขภาพ | เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล(ม.26) |
6 | เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดของคลินิกทางคลินิกอาจทำการเก็บรวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวิเคราะห์สภาวะสุขภาพของท่าน และติดต่อเพื่อสื่อสาร ส่งข้อมูลข่าวสารด้านการแพทย์ และนำเสนอโปรโมชั่น สินค้าและบริการแก่ท่านตามที่ท่านได้ให้ความยินยอม | – ข้อมูลระบุตัวตน- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ- ข้อมูลการสมัครข่าวสารและการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด | เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล(ม.26) |
7 | เพื่อการปฏิบัติตามสัญญากับท่านในฐานะที่ท่านเป็นผู้ให้บริการกับคลินิก หรือดำเนินตามคำขอของท่านในการเข้าทำสัญญากับคลินิกคลินิกจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะที่ท่านเป็นผู้ให้บริการกับคลินิก เพื่อการดำเนินการ เช่นติดต่อสื่อสารกับท่านในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาทั้งก่อนทำสัญญาและภายหลังทำสัญญาจ่ายเงินและค่าจ้างใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญาตรวจสอบความเรียบร้อยและความสำเร็จของงานตามสัญญาเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพื่อการตรวจสอบภายใน (Internal Audit) และการตรวจสอบตามมาตรฐานของธุรกิจ | เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญากับท่านในฐานะที่ท่านเป็นผู้ ให้บริการกับคลินิก หรือดำเนินตามคำขอของท่านในการเข้าทำสัญญากับคลินิก (ม.24 (3) |
นอกจากวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้นแล้ว คลินิกจะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ยกเว้นใน
กรณีที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อนุญาต เช่น
- เมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน (ม.24) หรือเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในกรณีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (ม.26)
- เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ม.24 (1))
- เพื่อป้องกันระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ (ม.24 (2))
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างคลินิกกับท่าน (ม.24 (3))
- เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของคลินิก(ม.24 (4))
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของคลินิก (Legitimate Interest) หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ม.24 (5))
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของคลินิก (ม.24 (6))
- เพื่อป้องกันระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพในกรณีที่การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม (ม.26 (1))
- เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย (ม.26 (4))
- เพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุข หรือการคุ้มครองทางสังคมอื่นใดโดยคลินิก จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ม.26 (5) (ข))
- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายด้านการคุ้มครองแรงงาน การให้สวัสดิการรักษาพยาบาล การประกันสังคม (ม.26 (5) (ค))
ข้อมูลส่วนบุคคลที่คลินิกเก็บรวบรวมจากท่าน
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่คลินิก เก็บรวบรวม สามารถจำแนกเป็นประเภทดังต่อไปนี้
- ข้อมูลระบุตัวตน (Personal data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน รูปถ่ายใบหน้า เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทาง หรือหมายเลขที่ระบุตัวตนอื่น ๆ
- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ (Contact data) เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
- ข้อมูลการเงิน (Financial data) เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต ข้อมูลใบเสร็จ ข้อมูลใบราคา
- ข้อมูลการสมัครข่าวสารและการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด (Marketing Data) เช่น ข้อมูลที่ใช้ในการลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารและเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด
- ข้อมูลสถิติ (Statistical Data) เช่น ข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน จำนวนผู้ป่วย และจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์
- ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ (Technical data) เช่น หมายเลข IP Address ของคอมพิวเตอร์ ชนิดของบราวเซอร์ ข้อมูล Cookies การตั้งค่าเรื่องเขตเวลา (time zone) ระบบปฏิบัติการ แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้เข้าเว็บไซต์ และ Online Appointment System
- ข้อมูลด้านสุขภาพ (Health data) เช่น ข้อมูลการรักษาพยาบาล รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกายและสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของผู้รับบริการ ผลการทดสอบจากห้องทดลอง การวินิจฉัย ชื่อโรคที่ได้รับการวินิจฉัย ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและแพ้ยา ประวัติแพ้อาหาร ผลเลือด ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา ภาพถ่ายทางรังสีวิทยา และรายงานผลการตรวจทางรังสีวิทยารายการยาที่แพทย์ได้สั่ง ข้อมูลที่จำเป็นต่อการให้บริการทางการแพทย์ ข้อมูล Feedback และผลการรักษา
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
คลินิกเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้โดยตรงจากท่าน ได้แก่
1. กรณีที่ท่านเป็นผู้เข้ารับบริการตรวจและรักษาโรค: คลินิกได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการที่ท่านติดต่อสอบถามกับคลินิก
เรื่องการบริการ หรือท่านได้ลงทะเบียนเข้ารับบริการทางการแพทย์ และบริการต่างๆ จากคลินิก ด้วยตนเองที่คลินิก รวมทั้งการลงทะเบียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
- กรณีที่ท่านเป็นผู้ให้บริการ (Vendor) ของคลินิก: คลินิกได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการที่ท่านติดต่อสอบถามกับคลินิก เพื่อเข้ามาให้บริการกับคลินิก หรือการที่คลินิกเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะที่ท่านเป็นผู้ให้บริการที่เข้าทำสัญญากับคลินิก
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับโดยทางอ้อม ได้แก่
- บุคคลที่มีความใกล้ชิดกับท่าน เช่น ญาติ คู่สมรส เป็นต้น
- บุคคลที่ท่านมอบอำนาจให้ดำเนินการแทนตัวท่านในการติดต่อกับโรงพยาบาล
- สถานพยาบาลในเครือข่ายในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับสถานพยาบาลในเครือข่ายไว้ว่าให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
- บุคคล นิติบุคคล หรือหน่วยงานไม่ว่าภาครัฐ เอกชน หรือรัฐวิสาหกิจที่เป็นผู้ส่งท่านมาตรวจรักษาหรือใช้บริการกับคลินิก หรือเป็นผู้ชำระค่าบริการให้กับท่าน
การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล
คลินิกจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลภายนอก ยกเว้นเป็นกรณีที่กฎหมายอนุญาตเพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติงาน ซึ่งทำให้คลินิกอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีต่อไปนี้
- เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้หน่วยงานราชการ หน่วยงานผู้มีอำนาจหรือบุคคลใดๆ เมื่อมีกฎหมายกำหนดหรือให้อำนาจ รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งศาล
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลหรือนิติบุคคลที่คลินิกจำเป็นต้องปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อผลประโยชน์ของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยคลินิกกำหนดให้บุคคลหรือนิติบุคคลเหล่านี้ต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบุคคลหรือนิติบุคคลในข้อนี้ได้แก่
- สถานพยาบาลในเครือข่ายหรือสาขาของลา กราซ คลินิกเวชกรรม เท่าที่จำเป็นในการให้บริการการตรวจรักษาโรคและให้บริการทางการแพทย์กับท่าน โดยคลินิกจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้น และคลินิกจะรักษาความลับให้กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามหน้าที่ที่คลินิกมีภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 และพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525
- บริษัทประกันภัย หรือผู้ให้บริการบริหารจัดการสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัยนั้น
- สถานพยาบาลที่รับการส่งต่อผู้ป่วย
- ผู้ส่งท่านมาตรวจรักษาหรือใช้บริการกับสถานพยาบาล หรือชำระเงินค่าบริการแทนท่าน
- ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของคลินิก เช่น ผู้รับจ้าง หรือผู้ให้บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การจัดทำข้อมูล การโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ การชำระเงิน หรือการให้บริการด้านเทคโนโลยี (Technology Outsource)
- คลินิกอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระบบประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) โดยใช้บริการจากบุคคลที่สามไม่ว่าตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยคลินิกได้เข้าทำสัญญากับบุคคลดังกล่าวด้วยความระมัดระวังและพิจารณาถึงระบบรักษาความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ให้บริการระบบ Cloud Computing นั้นให้กับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
- คลินิกจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนของเวชระเบียนของท่านไว้ในระบบของคลินิก เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี นับแต่วันที่คลินิกได้จัดทำหรือแก้ไขเพิ่มเติมเอกสารที่มีข้อมูลดังกล่าว อันเป็นระยะเวลาที่พึงคาดหมายว่าจะใช้ในการรักษาอาการเจ็บป่วยและติดตามอาการหลังได้รับการรักษา หรืออาจมากกว่าระยะเวลาดังกล่าวในกรณีที่สถานพยาบาลยังสามารถประมวลผลข้อมูลดังกล่าวได้โดยชอบด้วยกฎหมายหรือเพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาลของท่านหรือตามที่ท่านร้องขอ แต่จะเก็บไม่เกิน 10 ปี
- เมื่อพ้นระยะเวลาตามข้อ 1 แล้ว คลินิกจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามขั้นตอนการทำลายข้อมูลของคลินิก
- ในกรณีที่คลินิกต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติตามคำสั่งศาล หรือต้องก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายเพื่อเข้ากระบวนการระงับข้อพิพาทใดๆ คลินิกอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามระยะเวลาของอายุความตามกฎหมาย หรือจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะถึงที่สุดแล้วแต่กรณี
มาตรการในการเก็บรักษาและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- คลินิกจะจัดการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการไม่น้อยกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด และด้วยระบบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เช่น ใช้โปรโตคอลดความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) ปกป้องด้วยไฟร์วอลล์ รหัสผ่าน และมาตรการทางเทคนิคอื่นๆ สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงที่จำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร
- คลินิกจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเข้าถึงได้โดยพนักงาน ตัวแทน คู่ค้า หรือบุคคลภายนอก การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกจะสามารถทำได้ตามเท่าที่กำหนดไว้หรือตามคำสั่ง ซึ่งบุคคลภายนอกจะต้องมีหน้าที่ในการรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- คลินิกจัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
- คลินิกมีระบบตรวจสอบเพื่อจัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการของคลินิก
- ในกรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว คลินิกจะจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในด้านการเข้าถึงและควบคุมการใช้งาน มีระบบการใช้งานและระบบสำรองพร้อมทั้งแผนสำหรับกรณีฉุกเฉิน และมีการตรวจสอบประเมินความเสี่ยงของระบบอย่างสม่ำเสมอ
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
- ในบางกรณีคลินิกอาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ คลินิกอาจดำเนินการดังกล่าวได้หลังจากที่ได้แจ้งกับท่านถึงวัตถุประสงค์ของการดำเนินการดังกล่าว และได้รับการยินยอมจากท่านแล้ว โดยคลินิกจะแจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจไม่เพียงพอของประเทศปลายทาง
- คลินิกสามารถโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศนั้นเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น หรือเป็นไปตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
นโยบายเกี่ยวกับคุกกี้(CookiePolicy)
เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคลินิก คลินิกใช้คุกกี้เพื่อให้มั่นใจว่าท่านจะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานบนเว็บไซต์ของคลินิก คุกกี้เป็นไฟล์ขนาดเล็กที่จัดเก็บข้อมูลและบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของท่านผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านเลือกใช้ในขณะที่ท่านเข้าชมเว็บไซต์ อ่านนโยบายคุกกี้
คลินิกใช้คุกกี้เพื่อเก็บเอกลักษณ์การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านโดยเอกลักษณ์นี้ทำให้คลินิกสามารถจำลักษณะการใช้งานเว็บไซต์ของท่านได้ง่ายขึ้น และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของคลินิกให้เข้ากับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งานเว็บไซต์ท่าน ในบางครั้งคลินิกจำเป็นต้องให้บุคคลที่สามในการดำเนินการดังกล่าวซึ่งอาจต้องใช้อินเทอร์เน็ตโปรโตคอลแอดเดรส (IP Address) และคุกกี้เพื่อวิเคราะห์ เชื่อมโยงข้อมูล และประมวลผลตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด ท่านสามารถตั้งค่าคุกกี้ได้เมื่อท่านเข้าสู่เว็บไซต์ของคลินิก โดยท่านสามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้คุกกี้ทำการวิเคราะห์ เชื่อมโยงข้อมูล และประมวลผลตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องขอให้คลินิกดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังนี้
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent): ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความ ยินยอมในการประมวลผลข้อมูลสวนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับคลินิกได้ตลอดระยะเวลาที่ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับคลินิก
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access): ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านและขอให้คลินิกทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้คลินิกเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อคลินิกให้แก่ท่านได้
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification): ท่านมีสิทธิในการขอให้คลินิกแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
- สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure): ท่านมีสิทธิในการขอให้คลินิกทำการลบข้อมูลของ ท่านด้วยเหตุบางประการได้
- สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing): ท่านมีสิทธิในการให้คลินิกระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
- สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability): ท่านมีสิทธิในการโอนย้าย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับคลินิกไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบาง ประการได้
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object): ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้น ได้ที่ ลา กราซ คลินิก อาคารเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ ออฟฟิศทาวเวอร์ ชั้นที่10 ห้องเลขที่ 1003 เลขที่ 99/9 ม.2 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 เบอร์ติดต่อ:087-4949000 , 087-4944000 Email: pdpa.lagraceclinic@gmail.com
การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
คลินิก อาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในอนาคตเพื่อพัฒนาให้เกิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ดีขึ้น โดยคลินิกจะแจ้งให้ท่านทราบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว
ช่องทางการติดต่อ
ท่านสามารถติดต่อผู้ควบคุมข้อมูล สอบถามหรือใช้สิทธิใดๆที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ ลา กราซ คลินิก อาคารเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ ออฟฟิศทาวเวอร์ ชั้นที่10 ห้องเลขที่ 1003 เลขที่ 99/9 ม.2 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 เบอร์ติดต่อ:087-4949000 , 087-4944000 Email: pdpa.lagraceclinic@gmail.com