ปัญหา สิว เป็นเรื่องที่หลายคนเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น สิวอุดตันสิวอักเสบรอยดำรอยแดงหลังสิว ซึ่งบางครั้งการใช้ครีมหรือยาทาเพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ ในปี 2025 นี้ เทคโนโลยี เลเซอร์รักษาสิว ได้พัฒนาไปมาก ทำให้เห็นผลได้ไวขึ้น ปลอดภัยขึ้น และไม่ต้องพักฟื้น
วันนี้ La Grace Clinic จะมาอัพเดท ประเภทของ เลเซอร์ ที่ใช้ในการรักษาสิว พร้อมแนะนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล สำหรับคนที่อยากรักษาสิวนะคะ
ประเภทของ เลเซอร์รักษาสิว
1. Fractional Laser (เลเซอร์แบบแยกจุด)
เป็นเลเซอร์ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ลดหลุมสิว รอยแดง และรอยดำ
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวลึก หรือผิวไม่เรียบเนียน
- เห็นผลหลังทำ 3–5 ครั้ง
- ควรเว้นระยะห่าง 3–4 สัปดาห์ต่อครั้ง
- อาจมีรอยแดงและลอกผิวเล็กน้อยหลังทำ
2. VBeam (Pulsed Dye Laser)
V Beam เหมาะสำหรับลดรอยแดงจากสิว และรอยแผลเป็นที่มีสีแดง
ช่วยลดการอักเสบของสิวได้ดี เห็นผลชัดเจนภายใน 2–3 สัปดาห์
- ปลอดภัยกับทุกสภาพผิว
- แทบไม่มีผลข้างเคียง
3. Q-Switched Nd:YAG Laser
เลเซอร์ตัวเด็ด ที่จะช่วยลดเม็ดสีเมลานิน รอยดำจากสิว ฝ้า กระ และทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
สามารถทำร่วมกับการรักษาสิวประเภทอื่นได้
- เหมาะสำหรับรอยดำจากสิวเก่า
- ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น
นอกจากตัวเลเซอร์ที่เป็นที่นิยมในท้องตลาดแล้ว ยังมีเลเซอร์รักษาสิวดาวรุ่งดวงใหม่ ที่กำลังมาแรงด้วยค่ะ
เทคโนโลยี เลเซอร์สิว ใหม่ล่าสุดปี 2025
1. AviClear™ Laser (ได้รับ FDA รับรอง)
เทคโนโลยีเลเซอร์ใหม่ที่เน้นยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งเป็นต้นเหตุของสิวโดยตรง
ไม่ใช่แค่รักษาสิวที่มีอยู่ แต่ช่วยลดการเกิดสิวในอนาคตด้วย
จุดเด่น:
- ไม่ใช้ยา ไม่ต้องพักฟื้น
- เห็นผลชัดเจนใน 3–6 เดือน
- เหมาะกับทุกสีผิว
2. Hollywood Spectra™ 2025
เลเซอร์รุ่นใหม่จากอเมริกา เน้นการฟื้นฟูผิว รักษาสิว รอยแดง รอยดำ และผิวหมองคล้ำ
มีการปรับความยาวคลื่นได้ละเอียดขึ้น จึงเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
จุดเด่น:
- ไม่เจ็บ ไม่มีสะเก็ด
- ทำได้แม้ในช่วงที่มีสิวอักเสบ
- ผิวเนียน กระจ่างใสขึ้นหลังทำต่อเนื่อง 4–6 ครั้ง
3. Dual Yellow Laser (เวอร์ชัน 2025)
อัปเกรดพลังงานแสงให้ลงลึกและแม่นยำมากขึ้น ช่วยลดการอักเสบของสิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
จุดเด่น:
- ลดสิวอักเสบได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- เหมาะสำหรับคนที่มีสิวฮอร์โมน
- ทำร่วมกับการกดสิวหรือทรีตเมนต์ได้
เปรียบเทียบเทคโนโลยีเลเซอร์รักษาสิวที่นิยมในปี 2025
ประเภทเลเซอร์ | คุณสมบัติเด่น | เหมาะกับปัญหาผิว | ข้อดี | ข้อควรระวัง |
Laser Carbon (Carbon Peel Laser) | เลเซอร์ร่วมกับคาร์บอนเพื่อลดความมัน กระชับรูขุมขน | สิวอุดตัน สิวผด ผิวมัน | เห็นผลหลังทำทันที หน้าเนียนใสขึ้น | ควรทำอย่างต่อเนื่อง 3–5 ครั้ง |
Fractional CO2 Laser | เลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผลัดเซลล์ผิว | รอยสิว หลุมสิวลึก | ฟื้นฟูผิวลึก เห็นผลระยะยาว | อาจมีสะเก็ดบางจุด และต้องพักฟื้น 3–5 วัน |
IPL (Intense Pulsed Light) | แสงความเข้มสูงที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดรอยแดง | สิวอักเสบ รอยแดงจากสิว | ไม่มีสะเก็ด ไม่ต้องพักฟื้น | ต้องทำต่อเนื่อง 5–10 ครั้ง |
Q-Switched Nd:YAG | ยิงเม็ดสีโดยเฉพาะ ลดการอักเสบของสิว | รอยดำ รอยคล้ำจากสิว | หน้าใส ลดเม็ดสีเร็ว เหมาะกับผิวคนเอเชีย | ผลลัพธ์ค่อยเป็นค่อยไป |
Pico Laser (PicoSure / PicoWay) | พลังงานสูงในระดับ Picosecond ช่วยเคลียร์รอยสิวเร็ว | รอยดำฝังลึก หลุมสิวตื้น | เห็นผลเร็ว ลดการอักเสบได้ดี | ราคาสูงกว่าประเภทอื่น |
เลเซอร์รักษาสิวเหมาะกับใคร?
- ผู้ที่เป็นสิวอักเสบซ้ำ ๆ
- คนที่มีรอยดำ/รอยแดงหลังสิว
- ผู้ที่รักษาสิวด้วยยาแล้วไม่ได้ผล
- คนที่ต้องการเห็นผลไว โดยไม่ต้องใช้ยา
- คนที่ไม่มีเวลาเข้าคลินิกบ่อย ต้องการวิธีที่ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อควรรู้ก่อนทำเลเซอร์รักษาสิว
- ควรเข้ารับการประเมินกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเลือกเลเซอร์
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดก่อน–หลังทำเลเซอร์
- ทาครีมกันแดด SPF50+ ทุกวัน
- ห้ามล้างหน้าแรง ๆ หรือสครับผิวในช่วง 2–3 วันหลังทำ
- บางรายอาจมีผิวลอกหรือแดงเล็กน้อย ถือเป็นอาการปกติ
วิธีเลือกคลินิกรักษาสิวด้วยเลเซอร์อย่างปลอดภัย
การรักษาสิวด้วยเลเซอร์จะได้ผลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ความน่าเชื่อถือของคลินิกและความเชี่ยวชาญของแพทย์ ด้วยนะคะ ดังนั้นก่อนเข้ารับบริการ ควรพิจารณาตามนี้:
1. ตรวจสอบใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
คลินิกต้องมีเลขที่ใบอนุญาตแสดงไว้อย่างชัดเจน และมีชื่อแพทย์ประจำคลินิก
2. แพทย์ต้องเป็นผู้ให้คำปรึกษาโดยตรง
ไม่ควรพิจารณาจากพนักงานขายเพียงอย่างเดียว ควรได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์จริง
3. เครื่องเลเซอร์ต้องมีอย. และเป็นของแท้
ควรถามก่อนว่าเลเซอร์ที่ใช้ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน ได้รับการรับรองจาก อย. หรือไม่ เพื่อความปลอดภัย
4. มีรีวิวจริงจากลูกค้า
ควรดูรูป Before-After จากเคสจริงที่รักษาในคลินิกนั้น ไม่ใช่ภาพจากอินเทอร์เน็ตหรือภาพโฆษณา
5. ระวังราคา “ถูกเกินจริง”
เลเซอร์คุณภาพดีไม่ควรมีราคาต่ำเกินจริง เพราะอาจใช้เครื่องละเมิดลิขสิทธิ์ หรือไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลเซอร์รักษาสิว
Q: เลเซอร์รักษาสิวเจ็บไหม?
A: ส่วนใหญ่จะรู้สึกอุ่น ๆ หรือแสบเล็กน้อยเท่านั้น แพทย์จะทายาชาก่อนทำเสมอ
Q: ทำเลเซอร์แล้วสิวจะหายขาดไหม?
A: เลเซอร์ช่วยลดการอักเสบและรอยสิวได้ดี แต่ควรดูแลผิวควบคู่กับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
Q: ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
A: ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลใน 2–3 ครั้งแรก โดยทำห่างกันทุก 2–4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว
Q: เลเซอร์สิวราคาเท่าไหร่?
A: ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,500 – 6,000 บาท/ครั้ง ขึ้นอยู่กับประเภทเลเซอร์และคลินิกที่เลือก
Q: ผิวแพ้ง่ายทำเลเซอร์ได้ไหม?
A: ได้ค่ะ โดยควรเลือกเลเซอร์ชนิดที่อ่อนโยน และมีการประเมินจากแพทย์ก่อนทำ เช่น Dual Yellow หรือ Hollywood Spectra™
สรุป
ในปี 2025 นี้ การรักษาสิวด้วยเลเซอร์ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ เห็นผลไว และปลอดภัย โดยเฉพาะกับผู้ที่รักษาสิวด้วยวิธีอื่นแล้วยังไม่เห็นผล เทคโนโลยีใหม่อย่าง AviClear™, Dual Yellow 2025 และ Hollywood Spectra™ สามารถตอบโจทย์ทั้งสิวอักเสบ รอยสิว และปัญหาผิวที่ตามมาได้อย่างครบถ้วน
หากคุณกำลังมองหาวิธีรักษาสิวที่เห็นผลจริง อย่าลืมปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกเทคโนโลยีเลเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณที่สุด