เป็นฝ้า อย่าท้อ มาปรึกษาหมอที่ La Grace Clinic ก่อน
โปรโมชั่นรักษาฝ้า ที่ ลา กราซ คลินิก คอร์สรักษาฝ้า 3 ครั้ง เพียง 2,997 บาท เฉลี่ยครั้งละ 999 บาท ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย La Grace Clinic มุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าและมอบผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจสูงสุด โดยเฉพาะการรักษาฝ้าที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ความสำคัญของการรักษาฝ้า
ฝ้า เป็นปัญหาผิวหน้าที่พบบ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยกลางคน ฝ้าทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่เรียบเนียน และลดความมั่นใจ การรักษาฝ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนและสดใส
ปัญหา ฝ้า กระ เกิดจากอะไร?
ฝ้า กระ เกิดจากลักษณะผิวหนังที่มีการทำงานผิดปกติในการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) โดยสาเหตุของปัญหาที่สำคัญคือแสงแดด เพราะเมื่อเวลาที่เราโดนแสงแดด หรือรังสี UV เม็ดสีเมลานินจะทำงานเพื่อกรองรังสียูวีที่มากระทบผิว ไม่ให้เกิดความเสียหายต่างๆ ตามมา ด้วยเหตุนี้ เมื่อเราโดนแสงแดดมากเกินไป จะเป็นการไปกระตุ้นเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง ทำให้เมลานินถูกผลิตออกมามากขึ้น เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV โดยเฉพาะรังสี UVA ตัวการที่มักทำให้เกิดฝ้า กระ เพราะมีช่วงคลื่นที่ยาวกว่ารังสี UVB และสามารถทำลายผิวได้ลึกกว่า จึงทำให้ร่างกายต้องผลิตเมลานินออกมามากขึ้นเพื่อดูดซับรังสียูวี ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นมีจุดสีเข้มขึ้นบนใบหน้าได้อย่างชัดเจนจนเกิดเป็นฝ้า กระ ที่เรารู้จักกัน
ประเภทของฝ้า
ฝ้าตื้น (Epidermal Melasma)
ฝ้าตื้นเกิดขึ้นที่ชั้นผิวหนังบนหรือชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ฝ้าประเภทนี้มีลักษณะเป็นจุดหรือแผ่นสีเข้มที่ผิวหนังและมักพบได้บ่อยในบริเวณที่โดนแสงแดด
ลักษณะของฝ้าตื้น:
- มีสีเข้มชัดเจนเช่น สีน้ำตาลหรือสีดำ
- พบบริเวณใบหน้าเช่น หน้าผาก แก้ม และจมูก
- สามารถมองเห็นขอบเขตของฝ้าได้ชัดเจน
ฝ้าลึก (Dermal Melasma)
ฝ้าลึกเกิดขึ้นที่ชั้นผิวหนังล่างหรือชั้นหนังแท้ (Dermis) ฝ้าประเภทนี้มีลักษณะเป็นจุดหรือแผ่นสีเข้มที่อยู่ลึกลงไปในผิวหนัง และมักจะรักษาได้ยากกว่าฝ้าตื้น
ลักษณะของฝ้าลึก:
- มีสีเข้มเช่น สีเทาหรือสีน้ำเงิน
- พบบริเวณใบหน้าเช่น แก้ม คาง และขมับ
- ไม่สามารถมองเห็นขอบเขตของฝ้าได้ชัดเจน
ฝ้าผสม (Mixed Melasma)
ฝ้าผสมเป็นฝ้าที่เกิดขึ้นทั้งในชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ ฝ้าประเภทนี้มีลักษณะเป็นจุดหรือแผ่นสีเข้มที่มีทั้งสีเข้มชัดเจนและสีเทาหรือสีน้ำเงิน
ลักษณะของฝ้าผสม:
- มีสีเข้มชัดเจนเช่น สีน้ำตาลและสีเทาหรือสีน้ำเงิน
- พบบริเวณใบหน้าเช่น หน้าผาก แก้ม จมูก และขมับ
- มีขอบเขตของฝ้าที่ไม่ชัดเจนและมีลักษณะผสมกัน
รักษาฝ้าด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
การรักษาฝ้ามีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทของฝ้า ความหนักเบาของฝ้า ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าควรใช้วิธีไหนในการรักษา ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ใช้หลายๆวิธีผสมกัน เพื่อให้ผลการรักษาของมาดีที่สุด โดยหลักๆแล้ว วิธีการรักษาฝ้ามีดังนี้
โปรแกรมรักษาฝ้าแบบเลเซอร์
เป็นการใช้เลเซอร์ที่ทันสมัยในการรักษาฝ้า ซึ่งมีความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดี
ประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาฝ้า
เลเซอร์ Fractional CO2
- การทำงาน: เลเซอร์ Fractional CO2 ใช้ลำแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นสูงในการสร้างจุดเล็กๆ บนผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูสภาพผิว
- ข้อดี: ช่วยลดเลือนฝ้า ริ้วรอย และจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน
- การรักษา: แพทย์จะใช้เลเซอร์ Fractional CO2 ในบริเวณที่มีฝ้าและจุดด่างดำ การรักษาอาจใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีต่อครั้ง และควรทำซ้ำหลายครั้งตามคำแนะนำของแพทย์
เลเซอร์ Q-Switched Nd
- การทำงาน: เลเซอร์ Q-Switched Nd ใช้ลำแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจงในการทำลายเม็ดสีเมลานินที่เป็นสาเหตุของฝ้า
- ข้อดี: ช่วยลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังรอบข้าง
- การรักษา: แพทย์จะใช้เลเซอร์ Q-Switched Nd
ในบริเวณที่มีฝ้าและจุดด่างดำ การรักษาอาจใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีต่อครั้ง และควรทำซ้ำหลายครั้งตามคำแนะนำของแพทย์
การรักษาฝ้าด้วยตัวยาสำหรับฉีด
การรักษาฝ้าด้วยตัวยาสำหรับฉีดเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่นิยมใช้ในการรักษาฝ้า เนื่องจากสามารถเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง La Grace Clinic ใช้ตัวยาสำหรับฉีดที่มีคุณภาพสูงและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย
ประเภทของตัวยาสำหรับฉีดที่ใช้ในการรักษาฝ้า
- วิตามินซี (Vitamin C Injection) วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ในผิว ทำให้ผิวหน้าดูขาวใสและเรียบเนียน
- กลูต้าไธโอน (Glutathione Injection) กลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวหน้าดูขาวใสและลดเลือนฝ้าได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า
- เมโสเธอราพี (Mesotherapy) เมโสเธอราพีเป็นการฉีดสารบำรุงผิวเข้าสู่ชั้นหนังแท้โดยตรง ซึ่งช่วยให้สารบำรุงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการลดเลือนฝ้าและเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า
ข้อดีของการรักษาฝ้าด้วยตัวยาสำหรับฉีด
- เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว: การฉีดยาสามารถเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วภายในไม่กี่สัปดาห์
- ประสิทธิภาพสูง: ตัวยาสำหรับฉีดมีประสิทธิภาพสูงในการลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำ
- ปลอดภัย: การฉีดยาที่ La Grace Clinic ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ตัวยาที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย
กระบวนการรักษาฝ้าด้วยตัวยาสำหรับฉีด
- การประเมินสภาพผิวหน้า: แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวหน้าและวิเคราะห์ปัญหาฝ้า เพื่อเลือกตัวยาสำหรับฉีดที่เหมาะสม
- การเตรียมผิวหน้า: แพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าอย่างละเอียดและเตรียมผิวสำหรับการฉีดยา
- การฉีดยา: แพทย์จะทำการฉีดยาเข้าสู่ชั้นผิวหน้า โดยใช้เทคนิคที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- การดูแลหลังการรักษา: หลังการฉีดยา แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลผิวหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ผลลัพธ์และการดูแลหลังการรักษา
การรักษาฝ้าด้วยตัวยาสำหรับฉีดสามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ผิวหน้าจะดูขาวใส ลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำได้อย่างชัดเจน โดยผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังการรักษาของแต่ละบุคคล
หลังการฉีดยา แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลผิวหน้า เช่น การใช้ครีมบำรุงผิวและการหลีกเลี่ยงแสงแดด เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษาฝ้าด้วยตัวยาสำหรับฉีดคงอยู่ได้นาน
ข้อควรระวังในการรักษาฝ้าด้วยตัวยาสำหรับฉีด
- การแพ้ยา: หากมีประวัติการแพ้ยาหรือสารเคมี ควรแจ้งแพทย์ก่อนการรักษา
- การดูแลหลังการฉีดยา: ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ขั้นตอนการรักษาฝ้า
การรักษาฝ้าที่ La Grace Clinic ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนี้:
- การตรวจสภาพผิวหน้า: แพทย์จะตรวจสภาพผิวหน้าและวิเคราะห์ปัญหาฝ้า เพื่อออกแบบโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสม
- การทำความสะอาดผิวหน้า: ก่อนการรักษาฝ้า แพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าอย่างละเอียด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรักษา
- การรักษาฝ้า: แพทย์จะใช้เลเซอร์ในการรักษาฝ้า หรือ การฉีดตัวยารักษาฝ้า ขึ้นอยู่กับประเภทของฝ้า และสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะวินิจฉัย และเลือกวิธีที่ ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- การบำรุงผิวหลังการรักษา: หลังการรักษาฝ้า แพทย์จะทำการบำรุงผิวหน้า เพื่อให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนและสดใส
คำถามที่พบบ่อย
เพื่อตอบข้อสงสัยของลูกค้า La Grace Clinic ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาฝ้า ดังนี้:
- การรักษาฝ้าใช้เวลานานเท่าไหร่?: ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความรุนแรงของฝ้า โดยทั่วไปการรักษาฝ้าจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์
- การรักษาฝ้ามีผลข้างเคียงหรือไม่?: การรักษาฝ้าที่ La Grace Clinic ใช้เทคโนโลยีที่ปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อยมาก อาจมีอาการผิวแดงเล็กน้อยหลังการรักษา ซึ่งจะหายไปในไม่กี่ชั่วโมง
- สามารถใช้ครีมบำรุงผิวร่วมกับการรักษาฝ้าได้หรือไม่?: แพทย์จะแนะนำการใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสมร่วมกับการรักษาฝ้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
โปรโมชั่นรักษาฝ้า ที่ ลา กราซ คลินิก
เพื่อให้คนไข้ได้สัมผัสประสบการณ์การรักษาฝ้าที่ดีที่สุด La Grace Clinic มีข้อเสนอพิเศษโปรแกรมรักษาฝ้าด้วยการฉีด เพียงครั้งลt 999 บาทเท่านั้น สนใจทักไลน์ได้ที่ Line: @lagraceclinic
บทสรุป
La Grace Clinic มุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ด้วยการรักษาฝ้าที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย หากคุณมีปัญหาฝ้าและต้องการให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน ขาวใส ไม่ควรพลาดโปรโมชั่นรักษาฝ้าของ La Grace Clinic